สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
ธรรมชาติบำบัด
วิมลมาลย์ ศรีรุ่งเรือง
ปัญหาสุขภาพของประชาชนชาวไทย และทั่วโลก พบอุบัติการณ์การเจ็บป่วยและ
การตายด้วยโรคที่มีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อม วิถีการดำเนินชีวิต
พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ที่ไม่ถูกต้อง ความเครียดมากขึ้น เช่น โรคหัวใจ
และหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไต โรคมะเร็ง และโรคเอดส์
ซึ่งโรคเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อผู้ป่วย และครอบครัว
รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในสังคม เพราะเป็นโรคเจ็บป่วยที่เรื้อรัง
ทำให้ต้องสิ้นเปลืองเวลาและ ค่ารักษาพยาบาลอย่างมากมาย
ถ้าประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง
และเทคนิคในการเจริญสติเพื่อดูแลรักษาร่างกายและจิตใจของตนเอง
ก็จะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวได้ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
สังคมและประเทศชาติก็จะดีขึ้น เพราะประชาชนมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกาย และจิตใจ
ประเทศชาติสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลน้อยลง
ขณะเดียวกันประชาชนก็สามารถทำประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติได้มาก
เพราะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก่อให้เกิดการป้องกันทั้งร่างกายและจิตใจ
บทความนี้จะนำเสนอแนวทางที่จะพัฒนาตนเองไปสู่วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสมบูรณ์แบบ
ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะนี้ธรรมชาติบำบัดเป็นศาสตร์หนึ่งที่ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจ
เพื่อใช้ป้องกันและรักษาโรคดังกล่าวข้างต้น
ดังนั้นบุคลากรด้านสุขภาพจึงจำต้องปรับบทบาทและให้บริการดูแลผู้ป่วยด้วยการผสมผสานศาสตร์ธรรมชาติบำบัดร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กันไป
เพื่อสุขภาพดีอันยั่งยืนของผู้ป่วย และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้ดีขึ้น
อาหารสุขภาพถือว่าเป็นพื้นฐานของการรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติ
โดยเฉพาะอาหารตามแนวทางแมคโครไบโอติกส์ประยุกต์ตามประเพณี วัฒนธรรม
และวัตถุดิบที่มีตามฤดูกาลและท้องถิ่น
อาหารสุขภาพ หมายถึง
อาหารที่ใช้ส่วนประกอบของอาหารและเครื่องปรุง ผ่านการปรุง
โดยผู้เชี่ยวชาญให้เป็นอาหารที่รับประทานแล้วมีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพ
แมคโครไบโอติกส์ หมายถึง แนวทางอันยิ่งใหญ่ของชีวิต
หรือทัศนะการมองชีวิตที่กว้างใหญ่ ความคิดพื้นฐานของแมคโครไบโอติกส์คิดว่าทุก ๆ
สิ่งล้วนเกิดจากอนันต์อันไม่สิ้นสุดและกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่งตลอดเวลา
บ่งชี้ว่าเราควรจะผ่อนคลายทัศนะการมองโลกแบบแคบ ๆ ตายตัว
ควรจะยืดหยุ่นตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ เพื่อว่าจะได้รู้สึกกลมกลืนเป็นเอกภาพกับธรรมชาติ
อันเป็นหลักพื้นฐานสำคัญ
ธรรมชาติบำบัด หมายถึง
ระบบการแพทย์ที่เป็นคุณค่าของการสั่งสมและส่งเสริมกระบวนการรักษาตัวเองของร่างกายมนุษย์
โดยสรุปอาหารแมคโครไบโอติกส์ มีหลักการ 5 ประการคือ
- อาหารเป็นพื้นฐานทางสุขภาพและความสุข
- โซเดียม (Na) และ โปแตสซียม (K) เป็นธาตุที่ต่อต้านและเสริมให้สมบูรณ์ในอาหาร คือ คุณสมบัติหยิน หยาง ของอาหาร
- ธัญพืชเป็นอาหารหลักของมนุษย์
- อาหารควรเป็นอาหารที่ครบส่วน คงรูปเดิม ไม่ผ่านการขัดสี ปราศจากการปรุงแต่ง ได้จาก ธรรมชาติ
- อาหารต้องปลูกในท้องถิ่น และควรกินตามฤดูกาล
แมคโครไบโอติกส์เริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่นโดยนายแพทย์ ซาเก็น อิชิซูกะ (Sagen
Ishizuka) ซึ่งป่วยด้วยโรคไตและผิวหนัง ร่างกายอ่อนแอ
จึงได้ทุ่มเทศึกษาทั้งแพทย์พื้นบ้านที่เกี่ยวกับอาหารและทฤษฎีการแพทย์แผนปัจจุบัน
เพื่อที่จะรักษาตนเองให้หายจากโรค จนสามารถแต่งตำรา เรื่อง
ทฤษฎีทางเคมีของการมีอายุยืนยงและเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ
และท่านสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้เป็นจำนวนมาก
โดยการแนะนำให้รับประทานอาหารพื้นบ้าน มีข้าวกล้อง ผักและสาหร่ายทะเล
จอร์จโอซาว่า บิดาแห่งแมคโครไบโอติกส์
มีแนวคิดเกี่ยวกับภาวะสุขภาพที่แตกต่างไปโดยโอซาวาได้เสนอแนวทางการประเมินสุขภาพไว้
7 ข้อ ให้ประเมินสุขภาพของตนเองก่อนที่จะทดลองกินอาหารแบบแมคโครไบโอติกส์ สำหรับ 3
ข้อแรกนั้นเกี่ยวกับ กายภาพ ข้อละ 5 คะแนน ถ้าผ่านหมดก็ได้ 15 คะแนน สำหรับข้อที่
4,5 และ 6 เป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติของจิต ข้อละ 10 คะแนน สำหรับข้อ 7
ซึ่งเป็นข้อที่สำคัญที่สุด เป็นภาวะสูงสุดทางปัญญาคิดเป็น 55 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น
100 คะแนน ถ้าได้มากกว่า 40 คะแนน
ในครั้งแรกถือว่ามีสุขภาพดีและเมื่อกินอาหารแบบแมคโครไบโอติกส์ ไปแล้ว 1 3 เดือน
ควรประเมินอีกครั้ง ถ้าได้คะแนนรวม 60 คะแนน ใน 3 เดือน
ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง การประเมินตนเองให้แน่ชัดก่อนที่จะลองระบบโภชนาการ
และประเมินตนเองทุกเดือนที่ผ่านไป
จะทำให้เราสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าและความถูกต้องในการปฏิบัติตนได้
- ไม่เหนื่อยล้า พร้อมที่จะทำงานเสมอ (No Fatigue , 5 คะแนน) ความเหนื่อยคือรากเหง้าแท้ของโรคทั้งปวง ท่านไม่ควรจะเหนื่อยถ้าท่านเป็นหวัด ก็ถือว่าเป็นสัญญาณไม่ดี คนที่สุขภาพดีนั้นต้องกล้าผจญภัยในชีวิตไม่หยุดยั้ง ยิ่งอันตรายมากก็ยิ่งยินดีมากขึ้นในการแก้ปัญหา ทัศนคติเช่นนี้เป็นเครื่องหมายแห่งการอยู่เหนือความเหนื่อย
- การเจริญอาหาร (Good Appetite , 5 คะแนน) ถ้าท่านไม่สามารถทานอาหารธรรมดาที่สุดด้วยความอร่อย พึงพอใจ และซาบซึ้งขอบคุณต่อธรรมชาติที่ได้สร้างและมอบอาหารให้เราได้กินเพื่อดำรงชีวิตอยู่ ก็แสดงว่าความเจริญอาหารของท่านแย่มาก แต่ถ้าท่านทานข้าวกล้องเปล่า ๆ ขนมปังสีน้ำตาลเปล่า ๆ ได้อย่างเอร็ดอร่อยแสดงว่าท่านเจริญอาหารดีมาก และกระเพาะอาหารของท่านแข็งแรงสมบูรณ์ดี
- นอนหลับลึกและดี (Deep and good sleep , 5 คะแนน) ถ้าท่านฝันหรือละเมอขณะนอน แสดงว่าการพักผ่อนไม่ลึกไม่ดี ถ้าได้นอนหลับสนิทสัก 4 6 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ถ้าท่านไม่สามารถหลับสนิทภายใน 3 4 นาทีหลังจากหัวถึงหมอนแสดงว่าจิต ของท่านยังไม่หลุดพ้นจากความกลัวบางประการ
- ความจำดี (Good Memory , 10 คะแนน) ความจำคือองค์ประกอบเอกเทศประการเดียวที่สำคัญที่สุดของชีวิต
- อารมณ์ดี ไม่โกรธ (Good Humor , 10 คะแนน) ผู้มีสุขภาพดี ไม่ขี้โมโห กลัว หรือทุกข์ทรมาน ตรงข้ามกลับเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ในทุกสภาวการณ์ ขอบคุณต่อทุกสิ่งแม้คำวิจารณ์
- มีความฉับไวและชัดเจนในการคิดและการกระทำ (Clarity in Thinking and doing , 10 คะแนน)
- อารมณ์เที่ยงธรรม (The Mood of Justice , 55 คะแนน ) ผู้ที่บรรลุถึงขั้นนี้ย่อมเข้าถึงการตรัสรู้ การรู้แจ้งในตนเอง ดำรงชีวิตได้สอดคล้องกับธรรมชาติ นำระเบียบทางธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติ การกิน การดื่ม การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับระเบียบนี้จะทำให้สุขภาพดี
วิธีการกินแบบแมคโครไบโอติกส์ มิชิโอะ คุชิ ได้แนะนำอาหารแมคโครไบโอติกส์ มาตรฐานดังนี้
- ธัญพืชครบรูปที่ทำให้สุก อย่างน้อย 50 % ของปริมาณอาหารทุกมื้อ ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลีชนิดโฮลสวีท (อาจอยู่ในรูปของขนมปัง , สปาเก็ตตี้ , บะหมี่ ) ข้าวบาร์เลย์ ,ข้าวฟ่าง ,ข้าวโอต ,ข้าวโพด, บั๊ควีท
- ผักชนิดต่าง ๆ ประมาณ 20 30 % ของอาหารแต่ละมื้อ สองในสามควรปรุงให้สุก อีกหนึ่งในสามจะกินดิบ ๆ หรือผักสลัดต้มให้สุก ๆ ดิบ ๆ ก็ได้
- ถั่วและสาหร่ายทะเลสุกประมาณ 10 15 % ของอาหารที่กิน ได้แก่ ถั่วแดงเล็ก ถั่วลูกไก่หรือ ถั่วซิคพี ถั่วขาว ถั่วเลนทิล และถั่วดำ ถั่วอย่างอื่น ให้กินเป็นครั้งคราวเท่านั้น
- เครื่องดื่มควรประกอบด้วยน้ำชาจากก้านใบชา (ชาบันชา)
วิธีการกินแบบแมคโครไบโอติกส์ มาตรฐานที่กล่าวข้างต้น อาจจะเสริมอาหารดังต่อไปนี้เป็นครั้งเป็นคราว
- เนื้อปลาสีขาว สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ควรจะปรุงให้แตกต่างกันไปแต่ละสัปดาห์ และปริมาณของปลาควรจะน้อยกว่า 15 % ของอาหารทั้งหมดในมื้อนั้นเสมอ
- ของหวานทำจากผลไม้ปรุงสุก รับประทานได้สัปดาห์ละ 2 3 ครั้ง ต้องเป็นผลไม้ที่ปลูกในท้องถิ่นตามฤดูกาล น้ำผลไม้นั้น ไม่แนะนำแต่อาจจะดื่มได้เป็นครั้งคราวเวลาอากาศร้อนจัด
ต่อไปนี้เป็นคำเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับการใช้เป็นแนวปฏิบัติการกินอาหารแมคโครไบโอติกส์
- น้ำมันปรุงอาหารควรจะมีกำเนิดมาจากพืช เช่น น้ำมันงาคุณภาพดี กับน้ำมันข้าวโพด ในปริมาณแต่พอสมควร
- เกลือควรเป็นเกลือทะเลที่ไม่ขัดสี ซีอิ๊วทามาริ และมิโสะที่หมักในแบบดั้งเดิม สำหรับใช้ เป็นเครื่องปรุงรสเค็ม และควรจะปรุงอาหารแต่พอประมาณหรือให้อ่อน ๆ เข้าไว้
- เครื่องปรุงรสอื่น ๆ ดังนี้ โกมาชิโอะเป็นเมล็ดงาขาวคั่ว 10 12 ส่วนต่อเกลือทะเล 1 ส่วน บดรวมกัน ผงสาหร่ายคอมบุหรือวากาเมะอบ บ๊วยดองเกลือทะเล
- จะกินวันละ 1 หรือ 2 หรือ 3 มื้อก็ได้ หรือกินให้มากเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้ถูกสัดส่วนดังกล่าว
ต้องเคี้ยวให้ละเอียด อาหารแต่ละคำควรเคี้ยว 50 ครั้งหรือกว่านั้น
หลีกเลี่ยงการกินเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน ดื่มน้ำในปริมาณเล็กน้อยเมื่อกระหาย
อย่าดื่มน้ำเย็น
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ยึดแนวปฏิบัติดังต่อไปนี้
เพื่อสร้างและบำรุงสุขภาพและความผาสุก
- ดำรงชีวิตอย่างผาสุกโยไม่หมกมุ่นอยู่กับสภาพร่างกายของเรา และทำตัวให้กระฉับกระเฉง ทั้งทางกายและทางความคิด
- มีความรู้สึกขอบคุณต่อทุกสิ่งและทุกคน แสดงความขอบคุณทั้งก่อนและหลังอาหารแต่ละมื้อ
- พยายามเข้านอนก่อนเที่ยงคืนและตื่นแต่เช้าตรู่ทุกเมื่อที่เป็นไปได้
- สำหรับเสื้อผ้าที่สัมผัสกับร่างกายโดยตรง ให้พยายามหลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าใยสังเคราะห์หรือขนสัตว์ รวมทั้งเครื่องประดับโลหะที่นิ้ว ข้อมือ หรือคอให้มากเกินไป ประดับร่างกายอย่างง่าย ๆ และมีสง่าราศี
- ถ้าหากว่าสภาพร่างกายอำนวยให้ออกไปอยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ โดยสวมเสื้อผ้าง่าย ๆ และหากเป็นไปได้ให้เดินเท้าเปล่า พยายามเดินบนหญ้าหรือดินทุก ๆ วันที่อากาศดี เป็นเวลาสักครึ่งชั่วโมง
- พยายามรักษาบ้านให้อยู่ในระเบียบ เริ่มตั้งแต่ ครัว ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และรวมไปถึงทุกมุมในบ้าน
- ริเริ่มและสืบเนื่องการติดต่อทางจดหมายอย่างกระฉับกระเฉง เผื่อแผ่ความรักและมิตรภาพออกไปถึงพ่อแม่พี่น้อง ญาติ ครู และเพื่อน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำแบบแช่ในอ่างหรืออาบน้ำฝักบัวนาน ๆ นอกเสียจากว่ากินเกลือ หรืออาหารที่ได้จากสัตว์มากเกินไป
- ถูตัวให้ทั่วด้วยผ้าขนหนูชื้น ๆ ร้อนๆ หรือผ้าขนหนูแห้ง จนผิวหนังเป็นสีแดงทุกเช้า หรือทุกคืนก่อนเข้านอน หากทำไม่ได้อย่างน้อยให้ถูมือและเท้า รวมทั้งนิ้วมือและนิ้วเท้าด้วย
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่แต่งกลิ่นหอมด้วยเคมี แปรงฟันด้วยยาสีฟันชนิดที่ทำจากส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติหรือใช้เกลือทะเล
- หากสภาพร่างกายอำนวย พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งทำกิจกรรมในบ้าน เช่น ถูพื้น เช็ดหน้าต่าง ซักผ้า เล่นโยคะ ฝึกศิลปะการต่อสู้ เล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างเป็นระบบในรูปแบบอื่น ๆ หรือนวดตัวเองเช้า เย็น ครั้งละ 15 30 นาที
ตามทฤษฎีแมคโครไบโอติกส์ มุ่งที่จะปรับสมดุลของร่างกายทั้งภายในและภายนอก
โดยเชื่อว่าสรรพสิ่งล้วนกำเนิดมาจากหยินหยางทั้งสิ้น
ตั้งแต่จักรวาลอันไม่สิ้นสุดจนถึงโลกและตัวมนุษย์
หากมนุษย์ใช้ชีวิตประจำวันไม่สอดคล้องสมดุลกับธรรมชาติ
ผู้นั้นต้องประสพกับโรคภัยและความไม่สงบสุข
ดังนั้นถ้าสามารถใช้ชีวิตให้ธรรมชาติของร่างกายกลับเข้าสู่สมดุล
ร่างกายก็จะกำจัดสารพิษ หรือ หยิน หยาง ที่ไม่สมดุลออกไปเอง
เพราะร่างกายธรรมตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาวะสมดุล
สามารถที่จะเยียวยารักษาตัวเองได้ สิ่งที่แมคโครไบโอติกส์เชื่อก็คือ
อาหารที่สมดุลจะเปลี่ยนไปเป็นเลือดที่มีคุณภาพ
เลือดที่มีคุณภาพผสมกับอากาศจะเปลี่ยนเป็นเลือดแดง
จากเม็ดเลือดแดงจะเปลี่ยนเป็นเซลล์ต่าง ๆ ตามที่ร่างกายต้องการ
กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเองอย่างเหนือธรรมชาติ โดยที่มนุษย์ไม่สามารถบังคับได้
แต่หากเข้าใจและใช้วิถีชีวิตที่ถูกต้องตามกฎของจักรวาลแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ
สุขภาพดีมีความสุข
เอกสารอ้างอิง
- โอภาส ภูชิสสะ อาหารแมคโครไบโอติกส์ธรรมชาติบำบัด สุขภาพ ด้วยการแพทย์ผสมผสาน กองการแพทย์ทางเลือก. 2550 หน้า 54 59.
- จอร์จ โอซาวา กินเพื่อสุขภาพแบบเซนหนทางสู่การมีอายุวัฒนะ สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคิ่มทอง กรุงเทพฯ. 2531 หน้า 20 30.
- Kushi M & Jack A. The Macrobiotics path to total health.Ballantine Book, New York,NY. 2003.