สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>

สิว

สิว เป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งของผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยเจริญพันธุ์ ทำให้ต่อมไขมันขยายใหญ่ขึ้น และขับสารน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม (sebum) ออกมารวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ตามผิวหนังแบ่งตัวมากขึ้น และไปผสมกับเซลล์ผิวหนังและเซลล์สีที่หลุดออกมา จากนั้นก็ไปอุดตันรูเปิดของต่อมไขมัน จึงเกิดการอักเสบและเป็นตุ่มหนองขึ้น กระทั่งกลายเป็นสิว

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆ ของการเกิดสิว ได้แก่ฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งจะมีระดับสูงขึ้นในช่วงวัยรุ่น กรรมพันธุ์ ความเครียด การติดเชื้อ การรักษาความสะอาดของผิวหนัง การใช้ยา และสารเคมีในการบำรุงผิวต่างๆ รายที่เป็นเล็กน้อยอาจเป็นแค่สิวหัวดำ และตุ่มแดงขนาดเล็ก แต่ในรายที่เป็นรุนแรง จะเป็นหนองและกลายเป็นถุงน้ำอยู่ใต้ผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ จะมีอาการเจ็บและอักเสบ ซึ่งสิวชนิดนี้เมื่อหายมักเป็นแผลเป็นหรือเป็นหลุม และอาจทำให้ผิวหนังมีริ้วรอยแบบถาวร

กินอาหารต้านสิว

การกินอาหารผิด เป็นเหตุให้มีพิษสะสมในร่างกาย และถูกขับออกทางผิวหนังจนทำให้เกิดสิว ดังนั้นคุณสามารถป้องกันการเกิดสิวได้ดังนี้

  1. กินผัก ผลไม้ให้มาก และกินอาหารที่มีวิตามินซี วิตามินอี และวิตามินบีชนิดต่างๆ เพราะสามารถป้องกันการเป็นสิวหัวดำ และลดปัญหาเรื่องผิวมันได้ นอกจากนี้ควรกินผักที่มีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งพบมากในผักใบเขียวเข้ม และผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น ฟักทอง มะละกอ แครอท มะม่วงสุก เป็นต้น
  2. กินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี ซึ่งอยู่ในอาหารทะเล ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช จมูกข้าว โยเกิร์ต ขนมปังโฮลวีท ฟักทอง เมล็ดฟักทอง ซึ่งอาหารเหล่านี้สามารถช่วยลดการอักเสบ ติดเชื้อ ช่วยสมานผิวให้แผลอักเสบและแผลเป็นหายเร็วขึ้น
  3. ดื่มน้ำ (สะอาด) ให้เพียงพอ หรือจะดื่มน้ำสมุนไพรที่ไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกใต้ใบ มะตูม ก็ได้ แม้การดื่มน้ำจะไม่ได้ช่วยรักษาสิวโดยตรง แต่น้ำจะเป็นตัวพาของเสียและสิ่งสกปรกออกไป แถมยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรแต่ละชนิดอีกด้วย
  4. ดื่มน้ำผักผลไม้คั้นสด จำพวกบีตรูท แครอท เซอลารี หรือจะนำแตงกวา ผักสลัดแก้ว และผักขมมาคั้นรวมกันก็ได้ ใช้ดื่มวันละ 2 แก้ว
  5. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะอาหารขยะทั้งหลาย เช่น ช็อกโกแลต พิซซ่า ขนมกรุบกรอบ ของหวานต่างๆ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เพราะนอกจากไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวอีกด้วย

วิธีเลี่ยงการเกิดสิว

  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดี และมีออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้เต็มที่ รวมทั้งผิวหนังด้วย
  2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะขณะที่นอนหลับ เซลล์ผิวหนังจะฟื้นฟูสภาพตัวเองที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน ลองเข้านอนให้เร็วขึ้นกว่าปกติ 1-2 ชั่วโมง หน้าตาจะสดใสขึ้นค่ะ
  3. หยุดความเครียด สาเหตุของการเป็นสิวที่พบบ่อยคือความเครียด ดังนั้นควรหาวิธีผ่อนคลาย เพราะจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งการทำงานของเม็ดเลือดขาวในร่างกายดีขึ้น
  4. ล้างหน้าให้สะอาด ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่ที่อ่อนโยน แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ซับเบาๆด้วยผ้าขนหนู จำไว้ว่าไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ เพราะจะทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื่น โดยไม่ได้ช่วยป้องกันสิวแต่อย่างใด
  5. หยุดเอามือสัมผัสหน้า หรือเท้าคางเวลาคิด เพราะมือของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้สิวเห่อได้
  6. ทำดีท็อกซ์ การเป็นสิวย่อมแสดงว่าร่างกายในช่วงนั้นมีท็อกซินหรือพิษสะสมในร่างกาย การทำดีท็อกซ์จะช่วยขจัดสารพิษในร่างกายได้

วิตามินรักษาสิว

  • วิตามินเอ 10,000 IU กินติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • เบต้าแคโรทีน 50,000 IU เมื่อกินครบ 1 เดือน ให้ลดลงเหลือ 25,000 IU
  • วิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินบี 6 วิตามินบี 1 และวิตมินซี ชนิดละ 1,000 มิลลิกรัม ทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร
  • วิตามินอี 500 IU ทุกวันจนกว่าสิวจะหาย
  • สังกะสี 80 มิลลิกรัม ทุกวันจนกว่าสิวจะหาย (สังกะสีจะช่วยป้องกันการเกิดสิว แต่หากมีอาการคลื่นไส้ให้ลดปริมาณลงเหลือ 20 มิลลิกรัม)

    *หมายเหตุ 3.33 IU = 1 ไมโครกรัม 1,000 ไมโครกรัม = 1 มิลลิกรัม

  สูตรพอกหน้าเยียวยาสิว หากคุณพอมีเวลาว่างสักหน่อย ลองมาทำมาส์กพอกหน้ารักษาสิวใช้เองดูสิคะ เราเที่ยวเสาะหาสูตรที่ทำง่ายแสนง่ายและราคาถูกมาฝากดังนี้

  • สูตรที่ 1 แตงกวา ฝานแตงกวาเป็นแว่นๆ หนาพอประมาณ แช่ในเหล้ารัม แล้วพอกที่ใบหน้า ในเมล็ดแตงกวามีไขมันของพืชที่เรียกว่ากรดโอเลอิก และกรดไลโนเลอิก ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า
  • สูตรที่ 2 น้ำผึ้งผสมข้าวโอ๊ต สูตรนี้สำหรับคนที่มีผิวหน้ามันโดยเฉพาะ ล้างหน้าให้สะอาด แล้วใช้น้ำผึ้งผสมกับข้าวโอ๊ตให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ข้าวโอ๊ตมีสรรพคุณพิเศษในการช่วยดูดซับความมันจากผิว
  • สูตรที่ 3 มะนาว ล้างหน้าให้สะอาด บีบน้ำมะนาวลงในถ้วยใบเล็กๆ ชุบด้วยสำลี แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า 2-3 ครั้ง รอจนน้ำมะนาวแห้ง ประมาณ 10 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากคุณมีสภาพผิวค่อนข้างบอบบาง ควรผสมน้ำเปล่าในน้ำมะนาว เพื่อให้เจือจางลง ซึ่งสรรพคุณของมะนาวนั้นช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปไม่ให้อุดตันรูขุมขน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • สูตรที่ 4 มะเขือเทศ ฝานมะเขือเทศเป็นแว่นๆ หนาพอประมาณ นำมาถูให้ทั่วใบหน้า เมล็ดเล็กๆในผลมะเขือเทศนั้น นอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ด้วย
  • สูตรที่ 5 หัวแครอท เตรียมหัวแครอทสดปั่น แล้วทำเป็นแผ่นพอกหน้า วิตามินเอในแครอทจะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น

อาการสิวที่ควรรีบไปพบแพทย์

  1. อาการไม่ดีขึ้นหลังจากรักษาเองตามที่แนะนำแล้ว
  2. ระคายเคืองที่ผิวหนังจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้
  3. เป็นสิวชนิดถุงน้ำ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาจะทำให้เป็นแผลเป็นถาวร

ที่มา : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 165 ปีที่ 5 16 สิงหาคม 2548

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย