ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
กำเนิดเจ้าแม่กวนอิม
ปีตินิมิตเห็นพุทธเจ้า ขัดรับสั่งพระบิดาโทษดูแลอุทยาน
พระธิดาเมี่ยวส้านมีพระทัยจดจ่ออยู่กับพุทธเจ้าเป็นอาจิณจนในที่สุดก็กลายเป็นความฝัน
ในความฝันนั้นได้พบกับพระพุทธเจ้า ทำให้พระธิดามีศรัทธาเชื่อมั่นอย่างยิ่ง
และไม่คิดว่านั่นเป็นสภาวะฝัน พระองค์เชื่ออย่างสนิทว่าเป็นพระพุทธเจ้ามาโปรดชี้แนะ
จึงได้ลุกขึ้นมานมัสการไปยังเบื้องบนเพื่อขอบคุณในการชี้แนะ
เสร็จแล้วจึงกลับไปยังที่บรรทม คิดจะบรรทมแต่ก็หาหลับไม่
ในสมองเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงพระวจนะของพระพุทธเจ้าคิดกลับไปกลับมาหลายตลบ
คิดถึงดอกบัวขาวที่ภูเขาซวีหนีซันยิ่งทำให้ปีติยินดียิ่งนัก
ทำให้เข้าใจกระจ่างแจ้งถึงสิ่งที่พระบิดาได้เคยพูดถึง
โหลวน่าฝู่ลวี่เคยบอกไว้ว่าของสิ่งนี้สามารถรักษาแผลเป็นบนพระนลาฏได้
และได้เคยให้เจี่ยเย่ไปสืบมาดูแล้ว ก็พบว่ามีของล้ำค่านี้ด้วย
พระพุทธเจ้าก็ยังมาดำรัสถึงสิ่งนี้อีก
ดูเหมือนว่าดอกบัวขาวดอกนี้จะมีธรรมสัมพันธ์กับชะตาชีวิตของตนอย่างลึกซึ้ง
คิดที่จะหลุดพ้นจากปุถุชนสู่อริยบุคคล ถ้าจะไม่สืบหาถึงบัวล้ำค่านี้คงไม่ได้
พระองค์คิดเรื่อยไป
จนในที่สุดก็ได้ยินเสียงไก่ขันท้องฟ้าทางตะวันออกเริ่มสว่างแล้ว
พระองค์จึงลุกจากที่บรรทมก็พอดีแม่อุปถัมภ์ก็เข้ามาในห้องบรรทม
หลังจากทรงสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว พระธิดาเมี่ยวส้านก็นำเรื่องเมื่อคืน
เล่าเป็นคุ้งเป็นแควให้แม่อุปถัมภ์ฟัง
นางฟังแล้วก็พลอยยินดีไปด้วยถึงกับพนมมือขึ้นแล้วท่องพระนามของพุทธเจ้า
อันที่จริงนางเองก็ศรัทธาในพุทธเจ้ามากอยู่แล้ว
ยิ่งได้ยินว่าพระธิดาเมี่ยวส้านมีความหวังใน ความสำเร็จธรรมได้
ยิ่งทำให้เชื่อว่าเมื่อคนหนึ่งบรรลุธรรมผู้อยู่ข้างเคียงก็พลอยขึ้นสวรรค์ไปด้วย
ถ้าหากพระธิดาเมี่ยวส้านได้สำเร็จมรรคผลแล้ว
อย่างน้อยตนเองก็มีผลพลอยได้ดีไปด้วยเมื่อคิดถึงจุดนี้แล้ว
ทำไมจะไม่ให้นางพลอยยินดีด้วยเล่า
ตั้งแต่บัดนั้นมา
ในพระทัยพระธิดาเมี่ยวส้านก็คอยคำนึงถึงแต่ดอกบัวขาวดอกนั้น
แม้แต่ในความฝันก็มักจะได้พบเห็นเป็นประจำ
แต่ทว่าพระองค์ก็คิดได้ว่าตนเองอยู่แต่ในตำหนัก ไม่สามารถที่จะออกไปข้างนอกได้
ภูเขาซวีหนีซันก็ไกลนับพัน ๆ ลี้
ถึงแม้จะมีดอกบัวขาวดอกนี้แล้วทำอย่างไรจึงได้อยู่ในพระหัตถ์
อยากอาศัยแรงของผู้อื่นก็นับว่าตนเองยังไม่มีบุญบารมีพอ
คิดดูแล้วเรื่องนี้เป็นไปได้ยาก ทันใดพระทัยก็คิดได้ว่าไม่ถูก ๆ
ผู้บำเพ็ญต้องไม่มีคำว่ายาก ยิ่งมีความยากอยู่เฉพาะหน้า
ยิ่งต้องฟันฝ่าความยากนี้ไปให้ได้ จึงจะพบแสงสว่าง จึงสามารถหลุดพ้นขึ้นฝั่งได้
ถึงแม้จะทุกข์สาหัสนับพันหมื่น ก็ไม่เห็นแก่ความสะดวกสบาย ปฏิบัติเช่นนี้ไปเรื่อย
ๆเมื่อธรรมสัมพันธ์มาถึง ก็อย่าได้พูดถึงหนทางอันยาวไกลเลย
ย่อมมีโอกาสไปถึงได้แน่นอน แม้จะยากลำบากบ้างก็สามารถไปถึงจุดหมายได้
พระองค์คิดได้ดังนั้นแล้วก็ตัดความฟุ้งซ่านต่าง ๆ
ไปได้หมด จิตหนึ่งใจเดียวจรดจ่อกับการค้นคว้าพระสูตรแห่งพุทธศาสนา
รอคอยจนกว่าธรรมสัมพันธ์จะมาถึง กาลเวลาผ่านไปรวดเร็ว
ฤดูหนาวฤดูร้อนสลับผลัดเปลี่ยนไป พระธิดาเมี่ยวส้านก็เจริญพระชันษาได้ 16 ชันษาแล้ว
การบำเพ็ญภาวนาก็ก้าวหน้าไปทุก ๆ วัน การบำเพ็ญอย่างเงียบ ๆ
จนบรรลุถึงสภาวะภายในได้แล้ว ตลอดจนสามารถเข้าสมาธิได้
เมื่อมาถึงตอนนี้สภาพจิตใจยิ่งรู้สึกสว่างไสวทะลุปรุโปร่ง ไม่แปดเปื้อนแม้ธุลีเดียว
โดยไม่คาดคิด เกิดมีมารอุปสรรคอีกระลอกหนึ่ง
ภายหลังสิ้นสุดการไว้ทุกข์ของมเหสีเป่าเต๋อเรียบร้อยแล้ว ราชาเมี่ยวจ้วนทรงดำริว่า
พระธิดาองค์โตและรองต่างก็เจริญพระชันษาเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงได้จัดหาคู่ให้
โดยคัดเลือกชายหนุ่มที่มีชื่อเสียง คนหนึ่งฝ่ายบู๊
คนหนึ่งฝ่ายบุ๊นมาอภิเษกสมรสกับพระธิดาทั้งสองไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อมาถึงพระธิดาเมี่ยวส้าน ก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เพราะก่อนหน้านี้ได้เคยดำรัสไว้กับมเหสีเป่าเต๋อแล้ว
เพราะไม่มีพระโอรสจึงดำริจะทำตามที่ดำริไว้
ตอนนี้พระธิดาเมี่ยวส้านก็เจริญเป็นผู้ใหญ่แล้ว
จึงร้อนพระทัยที่จะจัดการให้เสร็จ
ด้านหนึ่งนั้นได้แสดงพระทัยให้เหล่าขุนนางได้รู้ไว้ มีรับสั่งให้พวกเขาใส่ใจสรรหา
อีกด้านหนึ่งก็ดำรัสกับพระธิดาให้ทราบ
โดยไม่คาดคิดเมื่อพระธิดาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับอภิเษกสมรสก็ตกพระทัยแล้วรีบทูลห้ามพระบิดา
ทูลบอกว่าตนเองยินยอมที่จะบำเพ็ญธรรมเพื่อหลุดพ้นความทุกข์
ตัดสินพระทัยไม่ยอมแต่งงาน
และได้ตั้งปณิธานต่อหน้าองค์พระพุทธเจ้าแล้วจะอุทิศตนเพื่อพุทธศาสนา
ถ้าหากตระบัดสัตย์ก็จะจมอยู่ในนรกอเวจี ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเป็นหมื่น ๆ กัปป์
คำพูดของพระองค์ก็ทำให้พระราชาเมี่ยวจ้วนทรงพระพิโรธ จนอ้ำอึ้งไปพักใหญ่
ๆแล้วจึงปลอบประโลมกับพระธิดาว่า เจ้าอย่าหลงงมงายเลย
เจ้าคิดดูซิว่าคนในโลกนี้มีใครบ้างที่ไม่มีครอบครัวแล้วจะดี
มีใครบ้างที่ยอมปล่อยทิ้งความรุ่งโรจน์ ความมั่งมียศฐาบรรดาศักดิ์ โดยไม่เสพสุข
กลับบำเพ็ญความว่างเปล่าที่เวิ้งว้างนั้น อย่าฟุ้งซ่านที่จะสำเร็จเป็นพุทธะเลย
เจ้าอาจถูกครอบงำด้วยพระสูตรคัมภีร์ไปชั่วครู่ชั่วยาม
ปิดบังจิตใจตนเองจนเป็นถึงขนาดนี้ ในที่สุดก็จะเสียใจภายหลัง
ฟังเสด็จพ่อรับสั่งจะดีกว่า
พระธิดาเมี่ยวส้านดำรัสตอบว่า ลูกได้ตั้งพระทัยแน่วแน่แล้วจะบำเพ็ญให้ถึงที่สุด ประการแรกจะได้ทดแทนพระคุณเสด็จพ่อเสด็จแม่ที่ให้กำเนิดและช่วยพระบิดาพระมารดาสร้างสมบุญบารมีเพื่อจะได้บรรลุสู่สัมมาสติ ประการที่สองจะได้ขจัดอกุศลกรรมของลูกเอง และยอมรับความทุกข์ของสรรพสัตว์ทั้งมวล ได้ให้สัตยาบันเรียบร้อยแล้วย่อมไม่เกิดความเสียใจ ขอให้พระบิดาโปรดส่งเสริมให้สัมฤทธิ์ผลด้วยเถิด อย่าได้ดำรัสถึงเรื่องแต่งงานอีกเลย ราชาเมี่ยวจ้วนทรงพิโรธจัดจึงรับสั่งว่า นี่เพราะแม่อุปถัมภ์เสี้ยมสอนเจ้าไว้แน่ ก็ให้แม่อุปถัมภ์ไปปลอบพระธิดา มีกำหนด 3 วันให้ถวายรายงาน หากภายใน 3 วัน ถ้าพระธิดายังไม่กลับใจยังขัดคำสั่งของราชา ถึงตอนนั้นทั้งสองคนก็ค่อยรับโทษ จะไม่อภัยให้เด็ดขาด แม่อุปถัมภ์ได้แต่รับคำ
ราชาเมี่ยวจ้วนทรงสะบัดแขนฉลองพระองค์แล้วเสด็จจากไป
แม่อุปถัมภ์รู้ดีว่านี่เป็นปัญหายิ่งใหญ่แต่ก็ไม่กล้าขัดราชโองการ
ก็ได้แต่โน้มน้าวพระธิดา ทั้งที่รู้ว่าพระธิดานั้นเด็ดเดี่ยว
ไม่ว่าจะตักเตือนปลอบประโลมอย่างไรก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เมื่อนางตักเตือนจนเหลืออดแล้ว นางก็กัดฟันทูลว่าถ้าไม่ยอมอภิเษกสมรสแล้ว
แม่อุปถัมภ์ก็ไม่มีอะไรต้องสนใจอีกแล้ว นอกจากเตรียมรับโทษก็แล้วกัน
แค่ชั่วพริบตาเวลา 3 วันก็มาถึง ราชาเมี่ยวจ้วนก็มีรับสั่งให้แม่อุปถัมภ์รายงาน
เมื่อฟังความจากแม่อุปถัมภ์แล้ว ราชาเมี่ยวจ้วนก็ทรงกริ้วและตรัสว่า
ที่แท้ก็ต่ำไพร่ ถ้าไม่ให้นางได้รับทุกข์บ้างก็คงไม่รู้สึก
แล้วก็มีพระบรมราชโองการให้พระธิดาเมี่ยวส้านไปดูแลอุทยานหลวง ให้รดน้ำพรวนดิน
หากทำไม่ดีก็จะถูกลงโทษ จนกว่าจะสำนึกผิดยอมฟังเสด็จพ่อ ไม่ให้มีฐานันดรเป็นพระธิดา
ให้ปฏิบัติต่อเธอดุจนางกำนัล เมื่อราชโองการตกมา ทุกคนต่างตระหนกตกใจ
แต่พระธิดาเมี่ยวส้านก็คงเฉยเมย แล้วย้ายออกจากตำหนักไปอยู่ในอุทยานกับแม่อุปถัมภ์
พอรุ่งเช้าก็ไม่กล้าที่จะขี้เกียจ รีบสูบน้ำ รดน้ำ
กวาดพื้น เช็ดโต๊ะ เก้าอี้ และอื่น ๆ ทุกอย่างจะทำด้วยพระหัตถ์หมด
อุทยานหลวงก็กว้างใหญ่ การที่จะเก็บกวาดให้ทั่วมิใช่เรื่องง่าย
โชคดีที่แม่อุปถัมภ์ช่วยหุงหาอาหารให้ จึงทุ่นแรงไปไม่น้อย
แต่พระองค์ก็ถูกอบรมเลี้ยงมาอย่างเจ้าขุนมูลนายตลอดเวลาอยู่แต่ในตำหนัก งานการต่าง
ๆ ก็มีแต่คนคอยรับใช้ไม่ต้องเหนื่อยพระวรกาย ไฉนเลยจะทำงานที่หนักอย่างนี้ได้
เพียงไม่กี่วันก็ทำให้มือและเท้าอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรง
การที่พระราชาเมี่ยวจ้วนฝืนพระทัยให้ทำเช่นนี้ก็คงคิดว่าพระธิดาคงทนรับการตรากตรำเช่นนี้ไม่ได้
เมื่อได้รับความลำบากแล้วคงจะเปลี่ยนพระทัยได้
หากแต่คาดไม่ถึงว่าพระธิดาเมี่ยวส้านมีน้ำพระทัยเด็ดเดี่ยวยิ่ง
พระองค์คิดว่าผู้ที่บำเพ็ญจริงจำเป็นต้องรับการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง
เมื่อไรกรรมหมดก็จะสำเร็จมรรคผล
ความยากลำบากที่ได้รับขณะนี้ก็เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
นับว่าไม่ใหญ่ยิ่งกระไรนัก
ถ้าหากยอมรับความยากลำบากที่ทำติดต่อกันมาเลยไม่รู้สึกหนักหนาอะไร
ราชาเมี่ยวจ้วนก็แอบตรวจตราดูพระ จริยวัตรของพระธิดา เมื่อเห็นพระธิดาเฉยเมยเช่นนี้
ในพระทัยยิ่งพิโรธหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร
ต่อมาวันหนึ่งอันเป็นวันคล้ายวันประสูติของราชาเมี่ยวจ้วน
พระธิดาเมี่ยวส้านก็เข้าวังแต่เช้าเพื่อถวายพระพรราชาเมี่ยวจ้วน
ราชาเมี่ยวจ้วนทอดพระเนตรเห็นพระธิดาฉลองพระองค์ด้วยเสื้อผ้าเนื้อหยาบ
ไม่แต่งหน้าแต่งตา จริยวัตรเหมือนแม่ชี เห็นแล้วไม่สบายพระทัย
ทอดพระเนตรแล้วพระทัยอัดอั้นว่านี่คือพระธิดาแท้ ๆ ของพระองค์หรือ
แม้จะไม่พอพระทัยอยู่บ้างจึงไม่ทรงดำรัสอะไรเลย ได้แต่ทอดถอนพระทัยเล็กน้อย
สักครู่หนึ่งจึงรับสั่งถามพระธิดาว่า ลูกเอ๋ย เจ้าได้รับความทุกข์ยากอย่างนี้แล้ว
น่าจะรู้สึกตื่นตัวได้แล้ว
พระธิดาเมี่ยวส้านกราบทูลว่า
ลูกไม่ทุกข์ยากอะไรเลยเพคะ สิ่งที่ผ่านมา เป็นภาพหนึ่งของชีวิต ไม่นับว่ายากลำบาก
ตลอดจนสภาพจิตของลูกก็คงสว่างไสว อันที่จริงไม่เคยมืดมน
จึงไม่ต้องกล่าวถึงการรู้สึกตื่นตัว
ก็ยังอ้อนวอนขอพระบิดาโปรดวินิจฉัยให้แจ่มแจ้งด้วยเถิดเพคะ
ราชาเมี่ยวจ้วนได้ฟังคำพูดเช่นนั้นจึงทรงพระสรวลอย่างเจื่อน ๆ แล้วรับสั่งว่า ดี !
ที่แท้เจ้าก็ยังทุกข์ลำบากไม่พอใช่ไหม
อีกสักครู่พี่สาวเจ้าและสวามีก็จะเข้ามาถวายพระพร ข้าจะจัดโต๊ะเสวยในอุทยาน
คอยต้อนรับให้ดี ยังไม่รีบไปกวาดให้สะอาดเรียบร้อยอีกหรือ !
พระธิดาเมี่ยวส้านรับพระราชโองการรีบกลับไปที่อุทยาน เก็บกวาดให้เรียบร้อย ณ
อุทยานหลวงนับตั้งแต่พระธิดามาดูแลรักษา ต้นไม้ใบหญ้าที่มีอยู่ก็เขียวชอุ่มยิ่งขึ้น
ศาลาพระที่นั่งก็สะอาดสะอ้านยิ่งนัก วันนี้ยิ่งเพิ่มการปัดกวาด
ไม่ว่าตามขื่อแปช่องบัญชร ก็ปราศจากฝุ่นละออง
พระธิดากับแม่อุปถัมภ์ช่วยกันเก็บกวาดที่ทางเพื่อรอรับการเสด็จของราชาเมี่ยวจ้วน
เวลาย่างเข้าเที่ยง ก็ได้ยินขบวนของนางกำนัลกำลังนำขบวนเสด็จมา
ติดตามมาด้วยเสียงหัวเราะเฮฮาเป็นช่วง ๆ พวกเขากำลังมากันแล้วนั่นคือ
การบำเพ็ญเพราะตนยินยอม มั่งมีศรีสุขสุดแต่เขา
» ถวายสุราศาลาเย็น ไข่มุกเด่นสู่ครรภ์ในฝัน
» หาว่าผู้เฒ่าพูดปดว่าพระเมตตา ธิดาน้อยหยุดกันแสงฟังโฉลก
» คิดยกราชบัลลังก์ เห็นมดต่อสู้กันเกิดจิตเมตตา
» ช่วยเหลือจักจั่นจนบาดเจ็บ ใครรักษาแผนเป็นหายมีรางวัล
» แพทย์สามัญไร้โอสถดี ผู้วิเศษกล่าวถึงบัวหิมะ
» เสาะหาบัวบานบนเขาซวีหนีซัน มเหสีเป่าเต๋อทรงประชวร
» โศลกทิ้งเงื่อนงำ เห็นการเกิดตายแจ้งในสัจธรรม
» ปีตินิมิตเห็นพุทธเจ้า ขัดรับสั่งพระบิดาโทษดูแลอุทยาน
» แสดงธรรมหน้าโต๊ะเสวย ถูกขับรับงานหนักโรงครัว
» นางกำนัลซาบซึ้งในความศรัทธา จึงอาสาช่วยงานตรากตรำ
» ปณิธานย่อมเป็นทาสรับใช้ความศรัทธามั่นทำให้เสด็จพ่อกลับใจ
» กำหนดฤกษ์บูรณะวัดจินกวงหมิง ได้ฤกษ์ออกเดินทางสู่เขาเยโหม่ว
» มีดทดสอบตัดหกอายตนะ สู่ศูนย์ตาเพ่งไตรภูมิในความเงียบ
» ในสมาธิเกิดปีติมารเข้าแทรก เข้าสมาธิบัวขาวบานกลางใจ
» เดินทางสู่ภูเขาซวีหนีซัน โปรยข้าวเปลือกผ่านเขาจ้าวอีกา
» พบผู้ใจดีชี้ทางให้ หลงใหลธรรมชาติเกิดเรื่องขึ้น
» ไต้ซือถูกจับที่ภูเขาจินหลุน ผู้ร่วมทางตัดสินใจไปช่วยเหลือ
» คนป่าแย่งรองเท้าสานไป อริยสงฆ์รูปหนึ่งทรงช้างเผือกมา
» ไต้ซือเดินทางด้วยเท้าเปล่า ชนเผ่าเจียลาเลี้ยงสัตว์ในทะเลทราย
» มีกรรมสัมพันธ์กับบ้านหลู่ ข้าวเหนียวช่วยรักษาโรค
» ปราบเสือร้ายเทียนหม่าฟง ที่เมืองหลิวหลีเห็นทางสว่าง
» สู่ยอดเขางูกลืนช้าง สู่ภาพมายาเจ้าโจมตี
» เจอะหมีขาวแกล้งนอนตาย ให้ลิงเลียนแบบเดินแล้วไหว้
» สู่สันเขารู้กระจ่างแจ้ง คุยถึงเรื่องที่ผ่านมาเด็กซนทำเรื่อง
» ผ่านความทุกข์ลำบากมานับพันหมื่นสำเร็จธรรมถูกตีกระหม่อมทะลุสหโลกธาตุ