ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
พระโมคคัลลานะ
เป็นพระมหาเถระ ผู้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า เป็นผู้ยอดเยี่ยม (เอตทัคคะ) ในทางมีฤทธิ์เป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย คู่กับพระสารีบุตร ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ยอดเยี่ยมในทางมีปัญญาเป็นเลิศ และเป็นอัครสาวกเบื้องขวา ทั้งสองท่านต่างก็เป็นกำลังสำคัญในการประกาศพระพุทธศาสนา
พระโมคคัลลานะ ก่อนบวชมีชื่อว่า โกลิตะ หรือเรียกตามชื่อสกุลว่า โมคคัลลานะ ท่านเป็นบุตรพราหมณ์ นายบ้านผู้หนึ่งกับนางโมคคัลลี เกิดในตำบลหนึ่งไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์ และอยู่ไม่ห่างจากบ้านของสกุลแห่งพระสารีบุตร จึงได้เป็นมิตรกับพระสารีบุตร ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ได้ศึกษาศิลปศาสตร์ด้วยกัน ออกบวชเป็นปริพาชกด้วยกัน และได้เข้าบวชเรียนในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าด้วยกัน
เมื่อพระโมคคัลลานะ บวชได้เจ็ดวันได้ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม รู้สึกโงกง่วงอยู่ พระพุทธเจ้าเสด็จไปทรงแสดงอุบายระงับความโงกง่วงให้ และทรงสั่งสอนในเรื่องการเกิดความเก้อ ทำให้คิดฟุ้งซ่านห่างจากสมาธิ เรื่องไม่พูดคำอันเป็นเหตุเถียงกัน ถือผิดกัน ทำให้ฟุ้งซ่าน ห่างจากสมาธิ เรื่องไม่สรรเสริญความคลุกคลี ควรหลีกออกเร้น อยู่ตามสมณวิสัย
พระโมคคัลลานะ ทูลถามว่า ด้วยข้อปฎิบัติเพียงเท่าไร ภิกษุชื่อว่าน้อยไปแล้ว ในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า บรรดาธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ทราบธรรมทั้งปวงชัดด้วยปัญญาอันยิ่ง ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง แล้วได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วยปัญญา เป็นเครื่องหมายเป็นเครื่องดับ และเป็นเครื่องสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น ย่อมไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งอะไร ๆ ในโลก ไม่สะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสได้เฉพาะตน และทราบชัดว่า ชาตินี้สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ต้องทำเสร็จแล้ว กิจอื่นที่ต้องทำอย่างนี้มิได้มี
พระโมคคัลลานะ ได้ฟังแล้วปฎิบัติตามพระพุทธโอวาท ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในวันนั้น ในสาวกนิพพานปริวัตร กล่าวว่าพระโมคคัลลานะ อยู่มาจนถึงพรรษาที่ 45 นับแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ล่วงมาแล้ว นิพพานหลังพระสารีบุตร ปักษ์หนึ่ง (15 วัน) พระพุทธเจ้าเสด็จไปทำฌาปนกิจแล้ว รับสั่งให้เก็บอัฐธาตุมาก่อพระเจดีย์ บรรจุไว้ ณ ที่ใกล้ซุ้มประตูเวฬุวนาราม
>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>