ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
เมโสโปเตเมีย
คือ อาณาบริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ซึ่งได้รับยกย่องว่า เป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง คำว่า เมโสโปเตเมีย เป็นภาษากรีกแปลว่า ดินแดนระหว่างแม่น้ำ ได้เริ่มใช้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราช ความหมายแต่แรกนั้นหมายถึง บริเวณระหว่างแม่น้ำไทกริส ซึ่งอยู่ทางตะวันออกกับแม่น้ำยูเฟรติสซึ่งอยู่ทางตะวันตก แม่น้ำทั้งสองนั้นมีต้นน้ำอยู่ทางภูเขาด้านเหนือ และไหลลงทะเลทางใต้ที่อ่าวเปอร์เซีย ต่อมาได้หมายรวมบริเวณใกล้เคียงด้วยคือ ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำไทกริส ออกไปจนถึงเทือกเขาซากรอส และเคยไปทางทิศตะวันตก ของแม่น้ำยูเฟรตีส ถึงบริเวณที่ราบสูง และทะเลทราบซีเรีย
ในประวัติศาสตร์สมัยโบราณส่วนทางใต้ของเมโสโปรเตเมียเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า บาปิโลเนีย ส่วนทางเหนือเรียกว่า อัสสิเรีย บริเวณครึ่งหนึ่งทางด้านใต้ ของบาปิโลเนียเรียกว่า ซูเมอร์ ครึ่งหนึ่งของทางเหนือของบาปิโลเนียเรียกว่า อัคคัด
ในแง่ภูมิศาสตร์เมโสโปเตเมียจะครอบคลุมส่วนใหญ่ของประเทศอิรักปัจจุบันจากการศึกษาค้นคว้าทางธรณีวิทยา มานุษยวิทยา โบราณคดีและศาสตร์สาขาอื่น ๆ มีผลสรุปว่า เมโสโปเตเมียเป็นแหล่งการเพาะปลูกตั้งแต่ราว 8,500 ปี ก่อนพุทธศักราชแถบเชิงเขาซากรอสและยังเป็นแหล่งเริ่มต้นการตั้งชุมชนอย่างถาวรที่เก่าแก่ที่สุดราว 5,500 ปีก่อนพุทธศักราช
ระหว่าง 4,500 - 3,500 ปีก่อนพุทธศักราชแถบตอนเหนือของเมโสโปเตเมียได้แก่ ที่ฮัสซุนาและที่ฮาลัฟ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของฮัสซูนา มีการเริ่มใช้ทองแดง มีการทำถนนปูด้วยหิน การก่อสร้างอาคารด้วยอิฐและการสร้างหลังคารูปโดม การก่อเตาเผาถ้วยชาม ผลิตถ้วยชามที่มีลวดลายสวยงาม ขณะเดียวกัน ทางทิศใต้ของเมโสโปเตเมีย เมื่อราว 4,500 ปีก่อนพุทธศักราช ได้มีการตั้งชุมชนทางเกษตรที่อุไบด์ ซึ่งอยู่ใกล้เมืองเออร์ ชุมชนนี้ได้ขยายตัวออกไปทางทิศเหนือ และทิศใต้คือ ไปถึงตอนเหนือของซีเรีย และฝั่งทะเลตะวันออกของซาอุดีอาราเบียตามลำดับ
ราว 3,500 ปีก่อนพุทธศักราชความเจริญที่สำคัญที่สุดของแถบเมโสโปเตเมียได้แก่ การก่อสร้างเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งมีอาคารมั่นคงถาวร เช่น โบสถ์วิหารของศาสนา และการคิดประดิษฐ์ตัวอักษร แหล่งของความเจริญอยู่ที่เมืองอุรุก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด ส่วนการประดิษฐ์ตัวอักษร เริ่มจากการเขียนภาพบนแผ่นดินเหนียว ซึ่งนับเป็นต้นเค้าของตัวอักษรคูนิฟอร์มของพวกซูเมเรียน และบาปิโลเนียนในภายหลัง
พวกซูเมเรียนเป็นชนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งตน และขยายอาณาจักรครอบครองแถบเมโสโปเตเมีย มีความเจริญสูงสุดราว 2,500 ปี ก่อนพุทธศักราช บริเวณที่เป็นแคว้นซูเมอร์ของซูเมเรียน อยู่ทางตอนใต้ของเมโสโปเตเมียมีเมืองสำคัญคือ เมืองอุรุก และเมืองคิช
พวกอัคคาเดียนเป็นชุมชนที่ตั้งตนทางตอนเหนือของแคว้นซูเมอร์ในบริเวณที่เรียกว่าแคว้นอัคคัดราว 1,900 ปี ก่อนพุทธศักราช พวกอัคคาเดียนได้เข้ายึดอำนาจ และปกครองเมืองต่าง ๆ ของพวกชูเมเรียนแต่คงอยู่เพียงหนึ่งศตวรรษเศษ ต่อมาพวกซูเมเรียนกลับพื้นคืนอำนาจขึ้นมาใหม่ โดยมีศูนย์สำคัญอยู่ที่เมืองเออร์
การตั้งอาณาจักรบาปิโลเนียได้ปรากฎขึ้นที่ตอนกลางระหว่างซูเมอร์กับอัคคัดกษัตริย์องค์สำคัญคือ พระเจ้าฮัมมูราบี (1249 - 1207 ปีก่อนพ.ศ.) ได้รวบร่วมประมวลกฎหมายฮัมมูราบี ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายที่เป็นลายลักษณะอักษรที่สมบูรณ์และเก่าแก่ที่สุดได้ให้จารึกไว้บนแท่งหินสูงประมาณ 2.40เมตรดัวยอักษรยูนิฟอร์มนครหลวงของอาณาจักรนี้คือบาปิโลน
อาณาจักรบาปิโลนได้เสื่อม และสลายลงเมื่อ 1052 ปีก่อน พ.ศ.จากการบุกรุกของพวกฮิตไคต์จากอะนาโตเลีย จากนั้นพวกแคสไซต์จากแถบภูเขาซากรอส ได้เข้าบุกรุก และครอบครองบาปิโลนอยู่ราว 400 ปี
ราว 107 ปี ก่อนพ.ศ. พวกอัสซีเรียน สามารถรวมตัวและจัดตั้งอาณาจักรขึ้นบริเวณตอนเหนือของเมโสโปเตเมีย มีอาณาเขตกว้างขวางจุดบริเวณเอเซียไมเนอร์ ตลอดมาถึงชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียน ต่อมาได้ขยายอำนาจไปถึงอียิปต์ ตีได้อียิปต์ เมื่อ 128 ปีก่อน พ.ศ.
ความเสื่อมของพวกฮัสซีเรียนปรากฎขึ้น เพราะถูกโจมตีจากพวกมีดส์ ซึ่งมาจากอิหร่าน ร่วมกับพวกบาปิโลเนียนใหม่ ที่เรียกกันว่า พวกคัลเดียน ยึดนครนิเนเวอหืได้ เมื่อ 78 ปีก่อน พ.ศ. พวกคัลเดียนได้ขยายอาณาเขตไปถึงนครเยรูซาเล็ม เข้าทำลายนครแห่งนี้ เมื่อ 43 ปีก่อน พ.ศ. เผาวิหารโซโลมอน จับกุมชาวยิวไปคุมขังที่บาปิโลน
จักรวรรดิ์บาปิโลเนียนใหม่ได้เสื่อม และสิ้นสุดในปี พ.ศ.4 เมื่อพระเจ้าไซรัสที่ 2 แห่งเปอร์เซียเข้ายึดทรงบาปิโลนได้ พวกเปอร์เซียครองอำนาจอยู่ได้สองศตวรรษ พระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราช แห่งมาเซดอนก็ยาตราทัพเข้าบุกอาณาจักรเปอร์เซียได้ชัยชนะต่อพระเจ้าดาริอสที่ 3 ของเปอร์เซีย เป็นผลให้วัฒนธรรมกรีก แพร่หลายเข้ามายังเมโสโปเตเมีย
กลุ่มชนที่เข้ามายังเมโสโปเตเมียภายหลังพวกกรีกคือ พวกพาร์เทียนจากตะวันออกของอิหร่าน ราวปี พ.ศ.402 อำนาจเหนือเมโสเปเตเมียได้เปลี่ยนจากพวกพาร์เนียนไปยังพวกซัสซาเนียน เมื่อปี พ.ศ.767 และยั่งยืนต่อมาราวสี่ศตวรรษ ระหว่างนี้เมโสโปเตเมีย ยังคงเป็นแหล่งของความร่ำรวย และเป็นแหล่งของการเผยแพร่คริสต์ศาสนา ถึงแม้พวกซัสซาเนียนมิได้นับถือคริสต์ศาสนา แต่นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ก็ตาม
เมื่อศาสนาอิสลามเริ่มแพร่หลายในพุทธศตวรรษที่ 12 แถบแหลมอาระเบียแล้วก็ได้ขยายเข้ามายังเมโสโปเตเมีย ตั้งแต่ปี พ.ศ.1177 ครั้งถึงปี พ.ศ.1184 ทั่วอาณาบริเวณเมโสโปเตเมีย ก็ตกอยู่ภายใต้การครอบครองของมุสลิมอาหรับ จากนั้นมาประวัติศาสตร์ของเมโสโปเตเมียก็คือ ประวัติศาสตร์ของประเทศอิรักนั่นเอง
>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>