ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
พระพุทธรูปปางต่าง ๆ
ในทางพระพุทธศาสนา คำว่าปาง หมายความว่าครั้งคราวหรือสมัยแห่งพระพุทธจริยาทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ปรากฎในสมัยหนึ่ง ๆ เมื่อทรงพระชนม์อยู่
พระพุทธจริยาตอนหนึ่ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ปรากฎในสมัยหนึ่ง ๆ นั้น ประมวลเข้าเป็นสามส่วนหรือสามประการคือ
1. ส่วนอัตตัตถจริยา คือพระพุทธจริยาในเวลาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อความตรัสรู้
นับแต่แรกเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ จนถึงเวลาตรัสรู้ และเวลาเสวยวิมุติสุข
อันเป็นเวลาหกปี ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พระองค์โดยเฉพาะ
2. ส่วนญาตัตถจริยา
คือพระพุทธจริยาในเวลาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พระประยูรญาติ โดยเฉพาะ
3. ส่วนโลกัตถจริยา
คือพระพุทธจริยาในเวลาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชนทั่วไป ตลอดเทวดา
พรหม ยักษ์ ที่สุดจนสัตว์เดรัจฉาน ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก
รวมทั้งการแสดงธรรม การบัญญัติพระวินัยแก่พระสงฆ์สาวก
เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนา
การสร้างพระพุทธรูปต่าง ๆ ตามพระพุทธจริยานั้น ๆ เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรกในแคว้นคันธารราฎร์ เมื่อปี พ.ศ.668 โดยช่างฝีมือชาวโยนก ซึ่งเป็นเชื้อสายกรีก ครั้นเข้าถึงพระพุทธศาสนาแล้วคิดสร้างพระพุทธรูปขึ้นสักการะบูชา บางท่านกล่าวว่าเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้ากนิษกะ แห่งราชวงศ์กุษาณะ ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ.662 - 706 และนับเป็นฝีมือช่างกรีกโรมัน อนุโลมตามคัมภีร์มหาปุริสลักษณะหลายข้อ
พระพุทธรูปที่สร้างในแคว้นคันธารราษฎร์ครั้งนั้นมีอยู่เพียง 2 - 3 ปางคือปรางตรัสเทศนาธรรมจักกัปวัตนสูตร ปางมารวิชัย และปางกระทำยมกปาฎิหารย์ ครั้นต่อมางานสร้างพระพุทธรูปางต่าง ๆ ตามพระพุทธจริยาคราวหนึ่ง ๆ ก็เพิ่มขึ้นตามยุคตามคราว
พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ในประเทศไทยได้สร้างมาแล้วรวมเจ็ดสมัยด้วยกันคือ สมัยทวารวดี สมัยศรีวิชัย สมัยลพบุรี สมัยเชียงแสน สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ (บางตำรามีสมัยอู่ทองด้วย)
สมัยทวารวดี
เท่าที่พบมีปางเทศนา ปางสมาธิ ปางมารวิชัย ปางมหาปฎิหาริย์ ปางปรินิพพาน ปางบรรทม
ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ปางประทานอภัย ปางประทานพร และปางโปรดสัตว์
สมัยศรีวิชัย เท่าที่พบมีปางมารวิชัย ปางสมาธิ ปางนาคปรก ปางปรินิพพาน
ปางประทานอภัย และปางเสด็จจากดาวดึงส์
สมัยลพบุรี
เท่าที่พบมีปางนาคปรก ปางมารวิชัย ปางสมาธิ ปางปรินิพพาน ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์
ปางประทานอภัย
สมัยเชียงแสน
เท่าที่พบมีปางมารวิชัย ปางสมาธิ ปางอุ้มบาตร ปางประดิษฐานรอยพระบาท ปางไสยา
ปางนั่ง ห้อยพระบาท ปางลีลา ปางเปิดโลก ปางประทับยืน และปางถวายเนตร
สมัยสุโขทัย
เท่าที่พบมีปางไสยา ปางลีลา ปางประทานอภัย ปางมารวิชัย ปางถวายเนตร ปางสมาธิ
ปางประทานพร และปางประทับยืน
สมัยอยุธยา
เท่าที่พบมีปางไสยา ปางมารวิชัย ปางประทานอภัย ปางป่าเลไลยก์ ปางลีลา
และปางประทับยืน
สมัยรัตนโกสินทร์
เท่าที่พบมีปางมารวิชัย ปางสมาธิ ปางประทานอภัย ปางไสยา ปางขอฝน
ในปัจจุบันสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นสมัยที่มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ สมบูรณ์ที่สุด พอประมวลได้มีถึง 66 ปางด้วยกัน
>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>