ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ปัญจอันตรธาน
แปลว่าความสุขไป ลับไป เสื่อมสิ้นห้าประการ หมายเอาความสูญไปเสื่อมไปแห่งพระพุทธศาสนา วิธีอันตรธานมีอยู่ห้าประการคือ
1. ความเสื่อมสูญแห่งพระปริยัติ
2. ความเสื่อมสูญแห่งการปฏิบัติ
3. ความเสื่อมสูญแห่งการตรัสรู้มรรคผล
4. ความเสื่อมสูญแห่งเพศสมณะ
5. ความเสื่อมสูญแห่งธาตุ
พระพุทธเจ้าตรัสว่าเมื่อพระปริยัติคือ พระไตรปิฎกยังต้องดำรงอยู่ตราบใด ศาสนาก็ชื่อว่ายังดำรงอยู่ตราบนั้น เมื่อพระปริยัติเสื่อมถอยน้อยผู้เล่าเรียนแล้วกาลใด พระศาสนาก็ชื่อว่าเสื่อมในกาลนั้น
พระปริยัติคือ พระไตรปิฎก ผู้มีปรีชาชาญได้สดับพระปริยัติแล้วจึงยังปฏิบัติทั้งปวงและปฏิเวธธรรมให้บริบูรณ์ได้ เมื่อพระปริยัติยังดำรงอยู่ตราบ่ใด ศาสนาก็ชื่อว่ายังดำรงอยู่ตราบนั้น ครั้นกาลล่วงไปพระปริยัติหาผู้เล่าเรียนมิได้แล้ว มีตั้งแต่จะเสื่อมทรุดลงไป พระภิกษุทั้งหลายไม่อาจทรงไว้ซึ่งอัตถรสได้ก็จะทรงไว้ได้แต่บาลีสิ่งเดียว เมื่อพระไตรปิฎกจะเสื่อมนั้น พระอภิธรรมเสื่อมก่อน โดยเสื่อมลงมาแต่ยอด คือ คัมภีร์พระมหาปัฏฐาน เมื่อพระสุตตันตปิฎกจะเสื่อมนั้น ก็เสื่อมแต่ยอดลงมา คัมภีร์อังคุตรนิกายเสื่อมก่อน เมื่อคัมภีร์ทีฆนิกายเสื่อมแล้ว พระสุตตันตปิฎกก็จัดว่าเสื่อม ในกาลครั้งนั้นพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายก็ทรงไว้ซึ่งชาดกและพระวินัย ต่อมาเมื่อชาดกเสื่อมจะเสื่อมที่มหาเวสสันดรชาดกก่อน พระภิกษุทั้งหลายก็ทรงไว้ซึ่งพระวินัยอย่างเดียว เมื่อพระวินัยจะเสื่อมนั้นคัมภีร์บริวารจะเสื่อมก่อน
ข้อที่ว่าความเสื่อมสูญระหว่างการปฏิบัติมีอธิบายว่า เมื่อพระภิกษุทั้งหลายไม่สามารถยังฌาน และวิปัสนา และมรรคผลให้เกิดขึ้นได้ ก็รักษาอยู่แต่พระจตุปาริสุทธิศีลสิ่งเดียว นานไปก็เบื่อหน่ายด้วยดำริว่า เราทั้งหลายจะประกอบกิจสักเท่าใดก็ไม่อาจสำเร็จมรรคผลได้ ก็คลายจากความเพียร ก็ย่ำยีล่วงเกินของอาบัติเล็กน้อย ต่อมาก็มิได้อาลัย ล่วงอาบัติอันใหญ่ คืออาบัติปาจิตตีย์ อาบัติถุลลัจจัย ต่อนานไปก็สำรวมรักษาไว้แต่ครุอาบัติ คือ สังฆาทิเสสและปาราชิก กาลใดหาภิกษุซึ่งจะสำรวมรักษาปาราชิกสิกขาบทไม่ได้แล้ว กาลนั้นจัดได้ชื่อว่า ปฏิบัติธรรมอันตรธาน
ข้อที่ว่าเสื่อมสูญแห่งการตรัสรู้มรรคผล กาลใดหาพระโสดาบันบุคคลมิได้ กาลนั้นก็ชื่อว่าอธิคมสัทธรรมอันดรธานแล้ว
ข้อที่ว่าความเสื่อมสูญแห่งเพศสมณะ กาลใดที่มีผู้ดำริว่า จะประโยชน์อันใดด้วยผ้ากาสาวพัสตร์อันผูกพันในมือและที่คอแล้วนำผ้ากาสวพัสตร์ทิ้งไป กาลนั้นสมณะเพศก็ได้ชื่อว่าเสื่อมสูญสิ้น
ข้อที่ว่าความเสื่อมสูญแห่งธาตุ หมายเอาพระบรมธาตุเจ้านิพพาน นิพพานในที่นี้มีสามประการคือ กิเลสปรินิพพาน ขันธปรินิพพาน และธาตุปรินิพพาน พระบรมสารีริกธาตุ อันประดิษฐานอยู่ในที่ต่าง ๆ นั้น ครั้นเมื่อมิได้เครื่องสรรพปูชนียภัณฑ์แล้วก็เสด็จไปสู่ที่ อันประกอบด้วยเครื่องสักการบูชา ถ้ามีบุคคลบูชาอยู่ในประเทศใดแล้ว ก็เสด็จไปสู่ประเทศนั้น ด้วยกำลังอธิษฐานแห่งองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นกาลล่วงไปที่ทั้งหลาย ทั้งปวงปราศจากเครื่องสักการบูชาแล้ว พระบรมธาตุก็จะมาสโมสรสันนิบาตเข้ากัน แล้วจะเสด็จไปสู่พระมหาเจดีย์อันใหญ่ในลังกาทวีป แล้วเสด็จไปสู่ราชายตนเจดีย์นาคทวีป แล้วเสด็จไปสู่โพธิบัลลังก์ พระบรมธาตุ ครั้นประชุมพร้อมกัน กระทำอาการเป็นพระพุทธรูปปรากฏเหมือนดังองค์พระสุคต อันเสด็จประดิษฐานเหนือรัตนบัลลังก์ใต้ควงไม้พระมหาโพธิ์ จะกระทำพระปาฎิหาริย์ มีอาการดุจดังยมกปาฎิหาริย์ ฝูงเทพทั้งหลายในหมื่นจักรวาล จะพากันมาสโมสรสันนิบาตพร้อมเพรียงกัน ในลำดับนั้นเดโชธาตุก็ดั้งขึ้น แต่พระสรีรธาตุเผาผลาญพุงพ้นขึ้นไปถึงพรหมโลก พระบรมธาตุแสดงซึ่งเตโชพลอานุภาพแล้วก็แสดงนิพพาน
>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>