สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
คนภูเขา
ข่าก้อ
ข่าก้อ อาศัยอยู่ตามแม่น้ำสาละวิน ในแคว้นฉาน
ถ้ามีใครตายพวกญาติจะเอาทรัพย์สมบัติของผู้ตายมาทำศพใหญ่โต
และฆ่าสัตว์เลี้ยงของผู้ตายมาเลี้ยงดูกัน โดยจะเก็บศพไว้นานหลายวัน
จนกว่าจะกินเสบียงอาหารของผู้ตายหมด จึงนำศพไปฝังในหลุมลึก
ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน
ชาวข่าก้อไม่อาบน้ำเลยตลอดชีวิต
ทั้งชายหญิงสวมเสื้อผ่าอกไม่ติดกระดุมและสวมหมวก ภาษาที่พูดคือถาษาจีนฮ่อ
นิยมใช้เม็ดเดือยมาร้อยเป็นสร้อยประดับ และชอบกินเนื้อสุนัขมาก
สำหรับหมวกนั้น ถ้าผู้หญิงมีสามีแล้วหรือแม่ม่าย จะสวมหมวกทรงสูง
ขอบหมวกจดหน้าผาก ถ้าเป็นสาวบริสุทธิ์ขอบหมวกจะยาวจดคิ้ว
และทั้งสาวแก่แม่ม่ายชายหมวกรอบๆจะห้อยเหมือนมาลัย ประดับแผ่นเงินกลมๆเล็ก
หรือลูกเดือยยาวถึงบ่า เหมือนกันหมด
หญิงชาวข่าก้อชอบใส่ตุ้มหูเหรียญเงิน ข้างละหลายๆอัน และสวมสร้อยลูกเดือย 10-15
เส้น ผู้ชายชาวข่าก้อ รูปร่างสูงใหญ่มากกว่าชาวเขาเผ่าอื่น ดวงตาใหญ่
ขากรรไกรกว้าง สวมเสื้อย้อมสีน้ำเงินแก่ และโพกหัวด้วยผ้าสีเดียวกัน
เผ่านี้ชอบไปไหนมาไหนเป็นหมู่คณะ อาชีพทำไร่ปลูกฝิ่นขาย(เดี๋ยวนี้เลิกหมดแล้ว)
แต่ไม่ชอบสูบฝิ่น ชอบสูบยาสูบมากกว่า
พวกสาวข่าก้อชอบแต่งงานกับจีนฮ่อมากกว่าพวกของตน เพราะจีนฮ่อมั่งมี
พวกนี้ซื้อฝิ่นจากข่าก้อ สมัยก่อนถ้าข่าก้อจนๆ
ก็อาจจะขายลูกสาวให้พวกจีนฮ่อด้วย
บ้านของข่าก้อสร้างด้วยไม่ไผ่ มุงด้วยหญ้าคา พื้นฝากไม้ไผ่ปูเสื่อทับ
มีห้องเดียวในบ้าน ทุกคนนอนรวมกันหมดในห้องนี้ ใต้ถุนเลี้ยง แพะ หมู
นิยมสร้างตามไหล่เขาสูงๆ
ทางตะวันตกของบ้าน มีประตูเรียกว่า ประตูผี
ถือกันว่าวิญญาณของบรรพบุรุษจะเข้ามาเยี่ยมเยียนพวกเขาทางนี้
พวกผู้ชายจะผ่านประตูนี้ไม่ได้ ส่วนผู้หญิงผ่านได้ นานๆทีจะมีพิธีไหว้ผี
การเป็นสามีภรรยาก็คล้ายๆชาวเขาโดยมาก คือเมื่อชอบกัน และได้เสียกันแล้ว
ก็สู่ขอแต่งงานกัน และผู้ชายข่าก้อนั้นจะมีเมียได้คนเดียว
ถ้าเขามีพี่ชายจะต้องพาเมียไปอยู่บ้านพี่ชายตามประเพณี ถ้าสามีตายก่อนภรรยา
จะกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ตนได้ แต่ต้องยกลูกให้พวกสามีตน
การทำศพ โดยขุดหลุมฝังและให้ฝังข้าวของคนตายลงไปด้วย รวมทั้งเงินทอง
แต่ภายหลังเลิกฝังเงินทอง เพราะมีคนแอบลักลอบขุดไป จะใส่เพียงเสื้อผ้าเท่านั้น.
» เย้า
» มูเซอ
» แม้ว
» มานาว
» ไทยลื้อ
» ข่าก้อ
» อีก้อ
» ว้า
» ลาวโซ่ง
» ลีซอ
» ข่า
» แข่เย้า
» บทเพลงกล่อมลูก ชาวเหนือ- ชาวอีสาน- ชาวเขา
***ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเก่าตั้งแต่เมื่อปี 2512 ปัจจุบันนี้วัฒนธรรมประเพณีและการแต่งกาย อาจเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย.