ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

นรก

ขุมที่ 1- สัญชีวนรก

                  นรกใหญ่ที่ 1 ชื่อสัญชีวนรกนั้น มีลมจำพวกหนึ่งพัดมาเย็นๆ พัดต้องสัตว์นรกที่ตายแล้วนั้น ให้กลับเป็นขึ้นมา ทนทุกขเวทนาสืบต่อไปอีก และสัญชีวนรกนั้น มีสัณฐานเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัส กำหนดโดยกว้าง และยาว และลึกได้ 100 โยชน์ มีฝาผนังสี่ด้าน แล้วไปด้วยเหล็กหนาได้ 9 โยชน์ พื้นข้างล่าง และฝาปิดเบื้องบนนั้น แล้วไปด้วยเหล็กหนาได้ 9 โยชน์เหมือนกัน มีประตู 4 ประตู ด้านละประตูๆ ประกอบด้วยหมู่นายนิรยบาล มีมือถือเครื่องศัสตราวุธต่างๆ คือ พร้าและขวาน จอบและตะบอง คอยสับ ฟัน ทิ่ม แทง แล่เนื้อ เถือหนัง แห่งสัตว์นรกทั้งหลาย ให้เหลืออยู่แต่ร่างกระดูกเปล่า ดังบุคคลที่ถากเปลือกไม้ เหลือไว้แต่แก่นฉะนั้น สัตว์นรกเหล่านั้นได้ความเจ็บปวด ก็ร้องไห้ร้องครางมีเสียงอันเซ็งแซ่ ครั้นตายไปแล้ว มีลมจำพวกหนึ่งพัดมาเย็นๆ ครั้นสัตว์นรกเหล่านั้น ต้องลมนั้น ก็กลับเป็นขึ้นมาอีกเล่า มีเนื้อและเลือดเป็นปกติดังเก่า ทนทุกข์ลำบากด้วยอาชญา แห่งนายนิรยบาลสืบต่อไป เป็นทั้งนี้เพราะอำนาจผล แห่งอกุศลกรรมที่ตนกระทำไว้ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์นั้น เป็นคนใจบาป ย่อมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สัตว์สองเท้าและสี่เท้า ฆ่าด้วยตนเองบ้าง และใช้คนอื่นฆ่าบ้าง คนใจบาปเหล่านี้ ครั้นทำลายขันธ์แล้ว ก็ลงไปทนทุกขเวทนา ในสัญชีวนรกช้านาน ประมาณได้ 500 ปี ถ้าจะนับเป็นปีในมนุษย์นี้ 9 ล้านปี จึงเป็นวันหนึ่งคืนหนึ่งในสัญชีวนรก 9 ล้านปี ในมนุษย์นี้ 30 หน จึ่งเป็นเดือนหนึ่งในสัญชีวนรก 12 เดือนจึ่งเป็นหนึ่งปี นับปีดังนี้ได้ 500 ปีจึ่งเป็นอายุประมาณของสัตว์ ในสัญชีวนรกนั้น ครั้นพ้นจากสัญชีวนรกแล้ว อกุศลกรรมยังไม่สิ้น ก็ไปตกในอุสุทนรก และยมโลกิกนรกที่เป็นบริวาร แห่งสัญชีวนรกนั้น ตกระออกมาทุกขุมๆ ครั้นพ้นจากนรกเหล่านี้แล้ว บางที่ก็ไปเกิดในติรัจฉานกำเนิดเป็นช้านาน บางทีก็ไปเกิดเป็นมนุษย์มีโรคมาก กายวิกลวิการวิปริตต่างๆ และเป็นคนมีอายุสั้น พลันตายเพราะเศษบาปมาตามทัน

ขุมที่ 1 - สัญชีวนรก
ขุมที่ 2 - กาฬสุตตนรก
 ขุมที่ 3 - ฆาตนรก
ขุมที่ 4 - โรรุวนรก
ขุมที่ 5 - มหาโรรุวนรก
ขุมที่ 6 - ตาปนนรก
ขุมที่ 7 - มหาตาปนนรก
 ขุมที่ 8 - อวิจีนรก
อุสุทนรก - บริวารแห่งนรกใหญ่ทั้ง 8 ขุม

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย