สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
สาระน่ารู้เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษที่เด็กและเยาวชนควรรู้
ปัจจุบันในแต่ละปีมีสถิติการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษที่ดำเนินคดีในศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศเพิ่มขึ้นมาก
จึงน่าเป็นห่วงเด็ก ( บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์ )
และเยาวชน ( บุคคลที่มีอายุเกิน 15 ปีบริบูรณ์แต่ไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ )
ซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติเป็นอย่างยิ่ง
จึงสมควรที่จะศึกษาเพื่อให้รู้จักยาเสพติดให้โทษ สาเหตุของการติดยาเสพติด
โทษของยาเสพติดให้โทษ
และการป้องกันมิให้ตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษต่อไป หาไม่แล้ว
ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษก็อาจจะกระทำความผิดอื่นที่ต่อเนื่อง เช่น
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ความผิดเกี่ยวกับเพศ
ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายอันเป็นปัญหาเดือดร้อนรำคาญและเป็นอาชญากรรมร้ายแรงมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
ความหมายของยาเสพติดให้โทษ
ยาเสพติดให้โทษ หมายความว่า สารเคมีหรือวัตถุใด ๆ
ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใด ๆ แล้ว
ทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิ่มขนาดการเสพเรื่อย ๆ
มีอาการถอนยาเมื่อขาดยา มีความต้องการเสพทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงตลอดเวลา
และสุขภาพโดยทั่วไปจะทรุดโทรมลง
กับให้รวมตลอดถึงพืชหรือส่วนของพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษหรืออาจใช้ผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษ
และสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษดังกล่าวด้วย
ประเภทของยาเสพติดให้โทษตามกฎหมาย แบ่งเป็น 5 ประเภทด้วยกัน คือ
- ประเภท 1 ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง เช่นเฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน
- ประเภท 2 ยาเสพติดให้โทษทั่วไป เช่น มอร์ฟีน โคคาอีน โคเคอีน ฝิ่น
- ประเภท 3 ยาเสพติดให้โทษที่มีลักษณะเป็นต้นตำรับยาและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ผสมอยู่ด้วย
- ประเภท 4 สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือประเภท 2 เช่น อาเซติคแอนไฮไดรด์ อาเซติลคลอไรด์
- ประเภท 5 ยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าอยู่ในประเภท 1 ถึงประเภท 4 เช่น กัญชา พืชกระท่อม
สาเหตุของการติดยาเสพติดให้โทษ
สาเหตุของการติดยาเสพติดให้โทษมีหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
- เพื่อนชักชวนหรือต้องการให้เป็นที่ยอมรับของเพื่อน
- อยากรู้ อยากทดลอง
- ถูกหลอกเพื่อผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น เพื่อให้จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ เพื่อใช้แรงงาน เพื่อค้าประเวณี
- มีความเชื่อในทางที่ผิดว่ายาเสพติดให้โทษบางประเภทอาจช่วยให้สบายใจ ลืมความทุกข์ ช่วยให้ทำงานได้มากกว่าปกติ
- ขาดความรัก ความอบอุ่น และความเข้าใจที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว
- สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการติดยาเสพติดให้โทษ บริเวณถิ่นที่อยู่อาศัยมีการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษหรือมีผู้ติดยาเสพติดให้โทษ
- เพื่อหนีปัญหาในบางปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขให้กับตนเองได้
โทษของยาเสพติดให้โทษ
การเสพยาเสพติดให้โทษโดยเฉพาะเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นปัญหาร้ายแรงในสังคมนั้น
นอกจากจะเป็นความผิดซึ่งผู้เสพ
จำหน่ายหรือผู้เกี่ยวข้องจะต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ
พ.ศ. 2522 ซึ่งมีโทษขั้นร้ายแรง ตั้งแต่ประหารชีวิต จำคุก หรือปรับแล้ว
ยังเป็นโทษต่อร่างกายและจิตใจด้วย
สำหรับผลเสียที่จะเกิดขึ้นแก่ร่างกายและจิตใจได้แก่
ผู้เสพยาเสพติดจะมีอาการปวดศีรษะ เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ใจสั่น ความดันโลหิตสูง
หัวใจเต้นแรงและเร็ว ร่างกายทรุดโทรม
ในรายที่เสพยาเสพติดในปริมาณมากอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตกเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้
นอกจากนี้แล้วการเสพยาเสพติดให้โทษอาจส่งผลให้เป็นโรคจิตควบคุมตัวเองไม่ได้ หูแว่ว
ประสาทหลอน หวาดระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย
จึงมักจะจับผู้อื่นเป็นตัวประกันหรือทำร้ายคนอื่นเพื่อให้ตนเองรู้สึกปลอดภัย
หรืออาจทำร้ายตัวเองได้ และยาเสพติดเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
ซึ่งถ้าเกิดเหตุกรณีดังกล่าวขึ้น
ผู้เสพยาเสพติดก็มีโอกาสได้รับโทษทางอาญาเนื่องจากการกระทำผิดต่อเนื่องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ในเรื่องนั้น
ๆ อีกด้วย เช่น
การขับรถขณะมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายก็จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก
พ.ศ. 2522
การป้องกันยาเสพติดให้โทษ สามารถป้องกันได้ 3 ทางด้วยกัน คือ
- การป้องกันโดยตนเอง ด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ
ไม่ทดลองใช้ยาเสพติด ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เช่นออกกำลังกาย อ่านหนังสือ
ไม่คบค้าสมาคมกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากมีปัญหาควรปรึกษาบิดามารดา
ญาติหรือครูอาจารย์
- การป้องกันโดยครอบครัว บุคคลภายในครอบครัวต้องร่วมกันสร้างความรัก
ความอบอุ่นและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในครอบครัว
และดูแลสมาชิกภายในครอบครัวไม่ให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ
หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวคนใดเสพยาเสพติดให้โทษแล้ว
ต้องให้กำลังใจและร่วมกันหาทางรักษา
- การป้องกันโดยสังคม สมาชิกภายในสังคมนั้น มีหน้าที่ศึกษาและทำความรู้จักชุมชนของตนเอง มีการหาแนวร่วมเพื่อเชื่อมโยงและขยายเครือข่ายระหว่างชุมชนเพื่อตั้งกลุ่มร่วมกันป้องกันและต่อต้านยาเสพติดให้โทษ เมื่อพบคนในสังคมติดยาเสพติดให้โทษก็ชักชวนหรือช่วยเหลือให้บุคคลนั้นเข้ารับการบำบัดรักษา และเมื่อทราบแหล่งซึ่งเป็นที่เสพ จำหน่าย หรือผลิตยาเสพติดให้โทษให้รีบเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบเพื่อดำเนินการจับกุมตามกฎหมายโดยทันที