ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>

รัสปูติน

หน้า 1 - 2 - 3 - 4 - 5

        กริกอริ รัสปูติน เกิดในครอบครัวเกษตรกรบ้านนอกของไซบีเรีย ในตอนเป็นหนุ่ม รัสปูตินมีความกระหายที่จะเป็นแบบเกษตรกรผู้ที่ทำงาน ดื่มเหล้าหนัก และเสเพลเรื่องผู้หญิง ขนาดอวัยวะเพศอันผิดมนุษย์มนาของเขาเป็นที่ชื่นชอบของเด็กสาวๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งมาดูเขาเปลือยกายว่ายน้ำในสระเช่นเดียวกับพวกเธอ (บางตำราที่กล่าวถึงรัสปูติน อ้างว่า รัสปูตินมีอวัยวะเพศยาวถึง 13 นิ้ว)

วันหนึ่ง ไอริน่า แดนิลอฟว่า คูบาชอฟว่าภรรยาสาวสวยของนายพลรัสเซียร่วมกับสาวใช้ 6 คน ร่วมกันล่อลวงเด็กหนุ่มรัสปูตินอายุ 16 ปีไปเสียตัว หลังจากเหตุการณ์ครานั้นแล้ว รัสปูตินจึงเริ่มเที่ยวโสเภณีในหมู่บ้านเกิดของเขา

เมื่อถึงอายุ 20 ปี รัสปูตินแต่งงานกับเด็กสาวในท้องถิ่นเดียวกัน ชื่อ ปราสโกเวีย เฟโอ โดรอฟน่า ดูโบรวิน่า และเป็นพ่อของเด็กสี่คน สามคนมีชีวิตอยู่จนเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าจะแต่งงานแล้ว เขาก็ยังเที่ยวโสเภณีอยู่

จากการได้ร่วมสนุกทางกามารมณ์กับเด็กสาวนาไซบีเรียสามคน ซึ่งเขามีโอกาสพบขณะไปว่ายน้ำเล่นที่ทะเลสาบนั้นเอง ได้ชักจูงให้รัสปูตินรู้ถึงความหลายหลากในศาสนา ในราว พ.ศ. 2443 เขาก็ได้ร่วมกับนิกายนอกรีตนอกรอยที่เรียกว่า นิกายคลิสติ กลุ่มศาสนิกชนผู้ยึดถือในนิกายนี้เชื่อว่ามนุษย์มีบาปมาแต่เริ่มแรก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไถ่บาปในเวลาต่อมา


ดังนั้น พวกเขาจึงประกอบพิธีอันพิลึกพิลั่นหลายอย่างเกี่ยวกับความวิตถารในทางกามารมณ์และการบูชายัญ ผู้คนในบ้านเกิดของรัสปูตินไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเหล่านี้ จึงขับไล่ รัสปูตินให้ต้องเร่ร่อนไปทั่วชนบทของรัสเซีย เพื่อประกอบการเยียวยารักษาโรค และชักชวนผู้หญิงในแดนเถื่อนให้เข้าร่วมพิธีกรรมอันวิตถารพิธีกรรมเหล่านี้ประกอบด้วยการดื่มเหล้า การร้องเพลง การเต้นรำอย่างบ้าคลั่ง และก็ทำกิจกรรมอย่างว่าเป็นหมู่คณะ ( สวิงกิ้งนั่นเอง ) ในทุกๆ แห่งที่สะดวกไม่ว่าจะเป็นป่า ( โปรดนึกภาพตามว่าสภาพจะเป็นอย่างไร ) ยุ้งข้าว หรือกระท่อมของสาวกคนใดคนหนึ่ง หลักนิยมของรัสปูตินในการไถ่บาปผ่านการปลดปล่อยทางกามารมณ์นั้น ทำให้สตรีมากมายที่ศรัทธาในนิกายนี้ต้องบำเรอความสุขให้เขาเสียก่อนเป็นขั้นแรก แม้ว่ารูปโฉมของ “ นักบุญจอมราคะ ” แสนจะสกปรกเลอะเทอะ โรเบิร์ต แมสซี่ นักเขียนอัตชีวประวัติจึงบันทึกไว้ว่า “ การร่วมเพศกับคนบ้านนอกที่ไม่ได้อาบน้ำ หนวดเคราและมือสกปรกได้ก่อให้เกิดความรู้สึกเสียวซ่านอย่างใหม่ขึ้น ”

ในปี พ.ศ. 2448 รัสปูตินได้เข้ามาตั้งมั่นอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก ( เมืองหลวงในขณะนั้น ) รัสปูตินได้บรรเทาอาการโรคโลหิตไหลไม่หยุด ( ฮีโมฟีเลีย ) ของเจ้าชายอเล็กซิสได้ เป็นที่ชื่นชมของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 และซารีน่า อเล็กซานดร้า ผู้เป็นพระราชมารดาเป็นอันมาก รัสปูตินจึงอาศัยอิทธิพลของซารีน่าแผ่อิทธิพลและสร้างเรื่องอื้อฉาวทางกามารมณ์จนเป็นที่กล่าวขวัญในเมืองหลวง มีสตรีสมัยใหม่จำนวนมากมายในนครหลวงที่ตกเป็นทาสกามของรัสปูตินอย่างเต็มใจ บางครั้งสามีของสตรีเหล่านี้กลับเอาไปคุยโวโอ้อวดว่าภรรยาของตน “ เป็นสมบัติของรัสปูติน ผู้มีความสามารถอย่างเหลือเชื่อ ” เขาจัดตั้งสำนักขึ้นในที่พักแบบห้องชุดของเขา และบรรดาสุภาพสตรีก็จะชุมนุมกันอยู่ที่โต๊ะในห้องอาหารเพื่อรอการเชิญเข้าไปในห้องนอนซึ่งเขาเรียกเอาเองว่า “ ห้องศักดิ์สิทธิอันเป็นที่หวงห้าม ”

หน้าถัดไป >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย