ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>
ยุควัฒนธรรม La Tene
ยุควัฒนธรรม La Tene อยู่ในช่วง 500 ปีก่อนคริสตศักราช
เป็นสมัยที่มีความเจริญทางด้านศิลปะแล้ว โดยกลุ่มชาวเชลติกสมัย Hallsatt
ช่วงยุคสุดท้าย แต่เมื่อเข้ายุควัฒนธรรม La Tene จะมีศิลปะที่แตกต่างกัน
โดยเป็นกลุ่มชนที่มีความชื่นชอบในการผลิตผลงานทางศิลปะโดยเฉพาะเครื่องทอง
เครื่องประดับ และการตกแต่งอาวุธต่างๆ สมัยราชวงศ์แรกมี Herodotus
เข้ามายังกลุ่มชาวเชลติกโดยสงครามเปอร์เซีย ขณะเดียวกันโรมันก็ต้องการรวบสามดินแดน
ได้แก่ Celtic Belgae และ Aquitani เข้าด้วยกันในสงคราม Gallic
จึงทำให้ดินแดนของกลุ่มชาวเชลติก
มีสงครามอยู่ต่อเนื่องและเป็นที่ต้องการของชนชาติอื่นๆ
เนื่องจากเป็นดินแดนที่เป็นทางผ่านของศูนย์กลางทางการค้าของศูนย์กลางต่างๆ
แต่ชาวยุโรปหลายชนชาติก็ได้ยกย่องช่างฝีมือของชาวเชลติกมิใช่น้อย
เพราะสามารถสร้างสรรค์ศิลปะขนาดใหญ่ให้มีความสวยงามได้เป็นอย่างดี
และมีเอกลักษณ์การออกแบบของชาวเชลติกที่ชัดเจน
โดยเฉพาะลวดลายที่ใช้ในการออกแบบสิ่งของต่างๆ
การออกแบบสิ่งของและเครื่องประดับยุควัฒนธรรม La Tene
มีแรงบันดาลใจจากพืชพรรณธรรมชาติของใบไม้ ต้นไม้
มีต่อเส้นโค้งที่เชื่อมกันเป็นแพทเทิร์น มีการขดเส้นโค้งงอของทรงกลม
หรือการใช้เส้นโค้งที่ขดไปมา ลักษณะเป็นนามธรรม มีการวางแพทเทิร์นลวดลายทั้งเอกภาพ
การซ้ำลวดลายไปมาและลวดลายที่ต่อเนื่องกัน จัดองค์ประกอบแบบสมมาตรเท่ากันซ้าย ขวา
รวมทั้งสมมาตรแบบศูนย์กลาง
ซึ่งในช่วงสมัยนั้นรูปทรงการออกแบบเช่นนี้เรียกรูปทรงเหล่านี้ว่า pelta
นำมาใช้ในการตกแต่งเครื่องประดับ ของใช้ รวมทั้งการตกแต่งอาวุธ
โดยเฉพาะด้ามดาบและโล่ ได้รับชื่อเสียงเป็นอันมาก จนทำให้เครื่องประดับยุควัฒนธรรม
La Tene จัดเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะชาวเชลติก
นอกจากนี้ยังมีแรงบันดาลใจในการออกแบบลวดลายเครื่องประดับที่ได้รับอิทธิพลจากทางตะวันตกและทางแอตแลนติก
ส่วนมากมันนำรูปแบบกรีกกับอิทรัสกันมาเป็นแรงบันดาลในอีกเช่นกัน
» ลักษณะการนำต้นแบบมาพัฒนาใหม่ หรือมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุดก่อนประวัติศาสตร์
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับอารยธรรมโบราณ
» ศิลปะเครื่องประดับอียิปต์ (Egypt)
» ยุค Middle Kingdom หรือยุคอาณาจักรกลาง
» ยุค New Kingdom หรือยุคอาณาจักรใหญ่
» ศิลปะเครื่องประดับเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia)
» ศิลปะเครื่องประดับมิโนอัน - ไมซีเน (Minoan - Mycenae)
» ศิลปะเครื่องประดับกรีก (Greek)
» ศิลปะเครื่องประดับอีทรัสกัน (Etrucan)
» ศิลปะเครื่องประดับเชลติก (Celtic)
» ศิลปะเครื่องประดับโรมัน (Rome)
» ศิลปะเครื่องประดับไบแซนไทน์ (Byzantine)
» ประวัติศาสตร์ศิลปะเครื่องประดับตะวันตกยุคประวัติศาสตร์
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงยุคกลาง
» ศิลปะเครื่องประดับโกธิค (Gothic)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยเรอนาซองค์ (Renaissance)
» ศิลปะเครื่องประดับแมนเนอริส (Mannerist)
» นักออกแบบเครื่องประดับ Benvenuto Cellini
» การออกแบบเครื่องประดับเชิงนามธรรม
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยอลิซาเบธที่ 1
» ศิลปะเครื่องประดับบาร็อค (Baroque)
» ศิลปะเครื่องประดับนีโอคลาสสิค
» ศิลปะเครื่องประดับคาเมโอ (Cameo)
» ศิลปะเครื่องประดับนโปเลียนกับโจเซฟิน (Napoleon & Josephine)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบคัทสติล (Cut Steel)
» ศิลปะเครื่องประดับแบบแชทเทิลเลน (Chatelaines)
» ศิลปะเครื่องประดับสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19
» ศิลปะเครื่องประดับอนุรักษ์นิยม
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fortunato Pio Castellani
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อนาย Carlo Giuliano
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Peter Carl Faberge
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Eugene Fontenay
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตนูโว (Art Nouveau)
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Rene Lalique
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Charles Lewis Tiffany
» ศิลปะเครื่องประดับวิคตอเรีย (Victoria)
» ศิลปะเครื่องประดับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
» นักออกแบบเครื่องประดับ Fulco di Verdura
» ศิลปะเครื่องประดับอาร์ตเดโค (Art Deco)
» นักออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ McClelland Barclay
» บริษัทที่ออกแบบเครื่องประดับเทียมชื่อ Trifari
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Coro
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Boucher
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Haskell
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Cartier
» บริษัทเครื่องประดับแท้ชื่อ Van Cleep & Arpels
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Daniel Swarovski
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Eisenberg
» บริษัทเครื่องประดับเทียมชื่อ Hobe
» นักออกแบบเครื่องประดับชื่อ Bulgari
» ศิลปะเครื่องประดับหลังสมัยใหม่
» ศิลปะเครื่องประดับมินิมอล (Minimalism)