วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
ทาน ศีล ภาวนา
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
ทาน คือ
เครื่องแสดงน้ำใจของมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง
มีเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ด้วยการให้ การเสียสละแบ่งปัน
มากน้อยตามกำลังของวัตถุเครื่องสงเคราะห์ที่มีอยู่ จะเป็นวัตถุทาน ธรรมทาน
หรือวิทยาทาน เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ นอกจากกุศล คือ
ความดีที่ได้จากทานนั้น เป็นสิ่งตอบแทนที่เจ้าของทานได้รับอยู่โดยดีเท่านั้น
อภัยทานควรให้แก่กัน เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดพลาดหรือล่วงเกิน
คนที่มีทานย่อมเป็นผู้สง่างาม และเด่นในปวงชน เป็นที่รักและเคารพในหมู่ชน
จะตกอยู่ทิศทางใดไม่อดอยากขาดแคลน จะมีสิ่งหรือผู้อุปถัมภ์จนได้ ไม่อับจนทนทุกข์
ผู้มีทานประดับตนย่อมไม่เป็นคนล้าสมัย บุคคลทุกชั้นไม่รังเกียจ
ผู้ที่มีทานย่อมเป็นผู้อบอุ่น หนุนโลกให้ชุ่มเย็น
การเสียสละจึงเป็นเครื่องค้ำจุนโลก การสงเคราะห์กันทำให้โลกมีความหมายตลอดไป
ไม่เป็นโลกที่ไร้ชาติขาดกระเจิง เหลือแต่ซาก แผ่นดินไม่แห้งแล้งแข่งกับทุกข์ตลอดไป
ศีล คือ รั้วกั้นความเบียดเบียนและการทำลายสมบัติร่างกายและจิตของกันและกัน ศีล คือ
พืชแห่งความดีอันยอดเยี่ยมที่ควรมีประจำชาติทนุษย์ ไม่ปล่อยให้สูญหายไป
เพราะมนุษย์ที่ไม่มีศีลเป็นรั้วกั้น เป็นเครื่องประดับตัว
จะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนหลับสนิทได้โดยปลอดภัย
แม้โลกเจริญด้วยวัตถุจนกองสูงกว่าพระอาทิตย์
แต่ความเร่าร้อนแผดเผาจะทวียิ่งกว่าพระอาทิตย์
ถ้ามัวแต่คิดว่าวัตถุมีค่ามากกว่าศีลธรรม ศีลธรรมเป็นเพียงสมบัติของมนุษย์
พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและนำมาประดับโลก ที่กำลังมืดมิดให้สว่างไสว
ร่มเย็นด้วนอำนาจศีลธรรมเป็นเครื่องปัดเป่า
ความคิดของมนุษย์ผู้มีกิเลสผลิตอะไรออกมาทำให้โลกร้อนจะบรรลัยอยู่แล้ว
ยิ่งปล่อยให้ความคิดไปตามอำนาจโดยไม่มีศีลธรรมช่วยเป็นยาชะโลมไว้บ้าง
จะผลิตยักษ์ใหญ่ทรงพิษขึ้นมากว้านกินมนุษย์ จนไม่มีอะไรเหลืออยู่
ความคิดของคนสิ้นกิเลสที่ทรงคุณอย่างสูง คือพระพุทธเจ้า
มีผลให้โลกได้รับความร่มเย็บซาบซึ้ง
กับความคิดที่เป็นกิเลสมีผลให้ตนเองและผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนจนคาดไม่ถึง
ผิดกันอยู่มาก ควรหาทางแก้ไข ผ่อนหนักให้เป็นเบาลงบ้าง ก่อนจะหมดทางแก้ไข
ศีลจึงเป็นเหมือนยาปราบโรค ทั้งโรคระบาดและเรื้อรัง
ภาวนา คือ การอบรมใจให้ฉลาดเที่ยงตรงต่อเหตุผลอรรถธรรม
รู้จักวิธีปฎิบัติต่อตนเองและสิ่งทั้งหลาย
ยึดการภาวนาเป็นรั้วกั้นความคิดฟุ้งซ่านของใจ
ให้อยู่ในเหตุผลอันเป็นทางแห่งความสงบสุข ใจที่ยังไม่ได้รับการอบรมจากภาวนา
จึงเปรียบเหมือนสัตว์ ที่ยังมิได้รับการฝึกหัด
จึงยังมีได้รับประโยชน์จากมันเท่าที่ควร
ใจจึงควรได้รับการอบรมให้รู้เรื่องของตัว จะเป็นผู้ควรแก่งานทั้งหลาย
ทั้งส่วนเล็กและส่วนใหญ่ ทั้งภายนอกและภายใน ผู้ที่มีภาวนาเป็นหลักใจ
จะทำอะไรชอบใช้ความคิดก่อนเสมอ
ไม่เสี่ยงและไม่เกิดความเสียหายแก่ตนและผู้เกี่ยวข้อง
การภาวนาจึงเป็นงานเพื่อผลในปัจจุบันและอนาคต
การงานทุกชนิดที่ทำด้วยใจของผู้ที่มีภาวนา จะสำเร็จด้วยความเรียบร้อย
ทำด้วยความใคร่ครวญ เล็งถึงผลประโยชน์ที่ได้รับ เป็นผู้มีหลักมีเหตุมีผล
ถือหลักความถูกต้องเป็นเข็มทิศทางเดินของกาย วาจา ใจ
ไม่เปิดช่องให้ความอยากอันไม่มีขอบเขตเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะความอยากดั้งเดิมเป็นไปตามอำนาจของกิเลสตัญหา ซึ่งไม่เคยสนใจต่อความผิด
ถูกชั่วดี จะเอาโทษมันก็ไม่ได้ ยอมให้เสียไปอย่างน่าเสียดาย
ถ้าไม่มีสติรำลึกบ้างเลยแล้ว ของเก่าก็เสียไป ของใหม่ก็จมไปด้วย
ไม่มีวันฟื้นตัว การภาวนาจึงเป็นเครื่องหักล้างความไม่มีเหตุผลของตนได้ดี
วิธีภาวนานั้นลำบากอยู่บ้าง เพราะเป็นวิธีบังคับใจ โดยวิธีสังเกตตัวเอง
สังเกตจิตที่อยู่ไม่เป็นสุข ด้วยความมีสติ รู้ถึงความเคลือนไหวของจิต
โดยมีธรรมบทใดบทหนึ่งเป็นคำบริกรรม
เพื่อเป็นยารักษาจิตให้ทรงตัวอยู่ได้ด้วยความสงบสุขในขณะภาวนา